ความคืบหน้าในการแก้ปัญหาโครงการ “แอชตัน อโศก” คอนโดมิเนียมหรู ภายหลังศาลปกครองสูงสุดแผนกคดีสิ่งแวดล้อมอ่านคำพิพากษามีคำพิพากษา เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างนั้น
ล่าสุด นิติบุคคลคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก พร้อมทนายความและลูกบ้าน เรียกร้องให้บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จากญี่ปุ่น ที่เป็นผู้พัฒนา โครงการนี้ นัดพูดคุยกับลูกบ้านเพื่อชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหาและเยียวยาภายใน 7 วัน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินทางกฎหมายในฐานะผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
โดยนายพิสุทธิ์ รักวงษ์ ทนายความของนิติบุคคล และลูกบ้านคอนโดฯ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและข้อมูลของลูกบ้านเพื่อฟ้องร้อง บ.อนันดา เรียกค่าเสียหายต่อศาลแพ่ง กว่า 5,000 ล้านบาท รวมถึงเตรียมฟ้องคดีอาญา และ ศาลปกครอง ฐานทอดทิ้งลูกบ้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนางสาว กุลชลิกา ผู้อาศัยคอนโดแอชตัน อโศก กล่าวทั้งน้ำตาว่า เพิ่งมาทราบว่าทางบริษัทถูกฟ้องร้องเรื่องทางเข้า-ออก ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการสอบถามจากทางเจ้าของโครงการ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ทางโครงการอ้างว่าเป็นเรื่องร้องเรียนทั่วไป ทำให้เธอไม่สบายใจจนกว่าจะอาศัยได้เหมือนอาคารปกติ และยังบอกอีกว่า เพื่อนบ้านบางคนนอนไม่หลับตั้งแต่ศาลตัดสิน บางคนโทรมาบอกว่านั่งเหม่อมา 3 วันแล้ว
กทม.ชี้แจงปมให้ใบอนุญาตก่อสร้าง แอชตันอโศก พร้อมเปิดไทม์ไลน์
คืบหน้า แอชตันอโศก หาที่ดินเพิ่ม-คุยสถาบันการเงินช่วยลูกบ้าน
“กฤษฎีกา” ชี้ รฟม.ให้เอกชนใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์การเวนคืน!
ขณะที่ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ สำนักการโยธา จะออกหนังสือถึงบริษัทอนันดา เพื่อแจ้งเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา 41 ของ พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 จากนั้นจะให้เวลาบริษัทอนันดา 30 วัน เพื่อแก้ไขทางเข้า-ออก ของโครงการให้ถูกต้องตาม คำสั่งศาล หากแก้ไขแล้วเสร็จ ก็สามารถยื่นขอใบอนุญาตใหม่ได้อีกครั้ง หรือหากไม่แล้วเสร็จและมีเหตุอันควร ก็ให้ขอขยายเวลาได้ เว้นแต่เมื่อขยายเวลาไปแล้วยังแก้ไขไม่แล้วเสร็จ ก็ต้องรื้อถอนตามมาตรา 42 ของ พรบ.ควบคุมอาคาร
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า กทม.ระบุว่า การแก้ปัญหาเรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและคำพิพากษาไม่ได้เอื้อประโยชน์ฝ่ายใด และย้ำว่าการแก้ไขตามมาตรา 41 คือให้แก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ให้ทุบในทันที