จากกรณีศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพากษา คดีน้องชมพู่ สั่งจำคุก 20 ปี นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” 2 ข้อหา และยกฟ้อง น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” เมื่อวานนี้
ล่าสุด นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้สัมภาษณ์ในรายการ "โหนกระแส" ตอนหนึ่งว่า รุ้สึกสบายใจหลังศาลตัดสิน และยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งเราหวังว่าสักวันหนึ่งความเป็นธรรมจะมีจริง จะมีการประกาศความจริงให้ทุกคนได้รู้
โฆษกศาลฯ แจงปม "ความเห็นแย้ง" แนบท้ายคดี "ลุงพล" จะมีน้ำหนักจนทำให้คดีเปลี่ยนหรือไม่
แฟนคลับจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ “ลุงพล-ป้าแต๋น” โอนเงินผูกแขนรัวๆ
เปิดข้อต่อสู้ทุกประเด็น! ทีมทนายความ "ลุงพล” งัดสู้คดี
เมื่อพิธีกรถามว่าทำไมตอนนั้นสงสัยลุงพลตั้งแต่ต้น นางสาวิตรี บอกว่า ตอนแรกไม่ได้สงสัย แต่รู้สึกไม่สมเหตุสมผล ที่ในตอนนั้นลุงพลไปพูดพาดพึงว่าตนสงสัยคนที่อยู่ข้างบ้าน ทำให้ทางครอบครัวไม่สบายใจและตำหนิ ลุงพลกับป้าแต๋นไป หลังจากนั้นลุงพลโกรธมาจนถึงขั้นมาเก็บอุปกรณ์ที่นำมาช่วยงานศพน้องกลับเลย ทั้งที่งานศพยังไม่เสร็จเลย จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
เมื่อถามถึงจุดที่สงสัยลุงพล นางสาวิตรี บอกว่า จากเหตุการณ์ที่ลุงพลมีการยืนเฝ้าตอนเผาศพ และให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการสะกดวิญญาณน้อง ว่าน้องยังอาฆาตอยู่ ทั้งที่ตอนน้องหายหรือกระทั่งวันที่เผาศพน้อง ทางครอบครัวยังไม่คิดว่าจะเป็นการฆาตกรรมเลย จึงสงสัยว่าทำไมถึงไปจับประเด็นว่าน้องยังมีความอาฆาตอยู่ จากนั้นหลังจากถูกตำรวจสอบปากคำเกือบทุกวันทำให้เริ่มติดตามข้อมูลเกี่ยวกับคนรอบตัวว่าจะเป็นใครได้บ้าง เพราะตำรวจจะถามทุกคนว่าใครอุ้มน้องได้บ้าง เราก็เลยมาเริ่มคิดกันว่าทำไมตำรวจถามแบบนี้ หลังจากนั้นก็มีอีกหลายอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล ที่เป็นจุดขัดแย้งในใจเรามากขึ้น
ด้านนายพิสิษฐ์ ตรัยเจริญเมธากุล ทนายความพ่อแม่น้องชมพู่ บอกว่า คดีนี้แม้จะไม่มีประจักษ์พยาน แต่พยานหลักฐานทุกอย่างสอดคล้องต้องกัน และศาลเชื่อว่าลุงพลเป็นคนพาน้องชมพู่ขึ้นเขา และน้องเสียชีวิตเพราะความประมาทของลุงพล ส่วนกรณีที่ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล และอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 แย้งนั้น ทั้งสองท่านไม่ใช่องคณะในคดี แต่ผู้พิพากษาในคดีจะเห็นพยานหลักฐานทุกอย่างตั้งแต่ต้น
ส่วนกรณีลุงพลจะอุทธรร์สู้คดีนั้น จริงๆเขาสู้มาตลอด ในประเด็นที่ว่าไม่มีประจักษ์พยาน ไม่มี DNA ที่บ่งชี้ได้ว่า DNA ของน้องมาอยู่ที่ตัวเขา และเรื่องการค้นไม่ชอบ ซึ่งคดีนี้ในประเด็นการค้นไม่ชอบก็ผ่านการพิสูจน์ในชั้นศาลไปแล้ว ส่วนเรื่องไม่มีประจักษ์พยาน แต่โจทย์ก็มีหลักฐานที่ต่อเป็นจิ๊กซอว์จนมาถึงนิติวิทยาศาสตร์
“ทางเรามองต่างจากดุลยพินิจในการรับฟังของศาลเล็กน้อย โดยศาลมองว่าจำเลยที่ 1(ลุงพล) พาน้องไป พรากไป และน้องเสียชีวิตเพราะความประมาทเลินเล่อ แต่เรามองว่าจำเลยที่ 1 พาไป และมีเจตนาทำให้น้องตาย ซึ่งโจทย์ทั้ง 2 จะอุทธรร์ในประเด็นนี้ ในส่วนประเด็นของป้าแต๋นจะอุทธรณ์หรือไม่นั้นก็มีการคุยกันมา แต่ต้องปรึกษากับโจทย์ก่อน”
ทั้งนี้จากการนำสืบของโจทย์ ทั้งการรับฟังพยานหลักฐานของศาลมาอนวทางเดียวกัน แตกต่างแค่ว่าตายโดยประมาท หรือตายโดยเจตนาเท่านั้นเอง ซึ่งความผิดเจตนาฆ่านั้น มีโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ซึ่งเราเชื่อว่ามีพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะอุทธรณ์ และเราจะมีการอุทธรณืเรื่องนี้แน่นอน
โตโยต้า เตรียมหยุดขาย-เรียกคืนรถยนต์ 2 รุ่น ในไทยหลังพบความผิดปกติใหม่
พม.เสนอครม.เคาะ 4 แพ็กเกจของขวัญปีใหม่คนพิการ-ผู้สูงอายุ
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566