วันที่ 22 ธ.ค. 2566 นายสุรชัย ชินชัย ทนายความลุงพล เรื่องรอยตัดของเส้นผมที่ตำรวจใช้เป็นหลักฐานเด็ด มัดตัวลุงพล โดยนายสุรชัยเปรียบเทียบการตัดเส้นผม เหมือนกับตัดชิ้นเนื้อ เพราะเป็นวัตถุทางชีวะที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เมื่อตัดวางทิ้งไว้ก็มีโอกาสที่รอยตัดหรือองศาในการการตัดจะคลาดเคลื่อนได้ ไม่เหมือนกับการตัดโลหะ ที่ตัดทิ้งไว้แล้วร่องรอยจะไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเส้นผมที่ตำรวจบอกว่าเก็บไปจากรถลุงพล ใช้เวลาถึง 10 เดือน กว่าจะส่งไปตรวจด้วยแสงซินโครตรอน ระหว่างนั้นสภาพเส้นผมอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้
เปิดใจชุดสืบ"คดีน้องชมพู่" 3 ปี ไขคดีกระจ่าง
ประวัติ “ลุงพล” ผู้ต้องสงสัย-คนดัง-จำเลย “คดีน้องชมพู่”
นอกจากนี้ การตรวจด้วยแสงซินโครตรอน นายสุรชัย บอกว่า ในต่างประเทศ มักจะใช้ส่องดูองค์ประกอบของวัตถุ หรือตรวจได้ว่ามีสารพิษอะไรเจือปนในร่างกายบ้าง แต่คดีนี้นำมาใช้ส่ององศารอยตัดของเส้นผม เพราะหาหลักฐานอื่นไม่ได้ ตรวจได้แต่ไมโตรคอนเดรียดีเอ็นเอว่าเป็นผมของญาติฝ่ายแม่น้องชมพู่ ซึ่งมีความเป็นไปได้หลายคนที่เคยนั่งรถลุงพล ทั้งแม่น้องชมพู่ ป้าแต๋น น้าต่าย รวมถึงยายของน้องชมพู่ ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนด้วยซ้ำว่าเป็นผมของน้องชมพู่หรือไม่
และการตรวจค้นรถลุงพล ที่ตำรวจบอกว่ามีการใส่ชุดพีพีอี และตรวจค้นถูกต้อง นายสุรชัย แย้งว่า ขณะที่มาตรวจค้นตอนแรกยังไม่มีการใส่ชุดพีพีอี และได้เปิดประตูรถลุงพลและเข้าไปภายในก่อน เพิ่งใส่ชุดพีพีอีภายหลังจากที่เห็นว่ามีสื่อมาแล้ว และหลังการตรวจค้นเมื่อเก็บหลักฐานอะไรไป โดยปกติจะต้องแจ้งลุงพลด้วย แต่ขณะนั้นตำรวจไม่ได้แจ้งว่าพบเส้นผม ลุงพลเพิ่งมารู้เมื่อถูกฟ้องคดีแล้ว
ส่วนกรณีมีพยานให้การว่าเห็นลุงพลที่สวนยาง ช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่น้องหายนั้น นายสุรชัย มองว่า คำให้การอาจคลาดเคลื่อนก็ได้ และก็มีพยานเบิกความในชั้นศาลว่าไม่ได้เห็นลุงพล ขัดแย้งกับคำให้การในชั้นสอบสวน แสดงว่าต้องมีอันใดอันหนึ่งเป็นเท็จ ซึ่งตอนที่ให้การในชั้นสอบสวน ศาลไม่ได้อยู่ด้วย ไม่เห็นว่าให้การยังไง ต่างจากในชั้นสืบพยานที่ให้การต่อหน้าศาล แต่ศาลกลับเชื่อคำให้การในชั้นสอบสวนมากกว่า
ส่วนคำให้การของลุงพลที่มีพิรุธ เช่นตอนรับพระ ที่ไปบอกพระว่าเกือบไม่ได้มารับเพราะหลานหาย มองว่า เป็นเพียงคำให้การของพยานแวดล้อม ที่อาจคลาดเคลื่อนก็ได้ โดยคดีนี้ไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นว่าลุงพลอุ้มน้องไป แต่ตำรวจทำสำนวนโดยเอาพิรุธของลุงพลเข้ามาอยู่ในสำนวน ซึ่งการที่ลุงพลให้การมีพิรุธ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนอุ้มน้องไป และคำฟ้องก็ฟ้องข้อหาเจตนาฆ่าฯ แต่พิสูจน์แรงจูงใจไม่ได้ ซึ่งในเมื่อไม่มีแรงจูงใจ นายสุรชัยก็ตั้งคำถามว่า จะเป็นเจตนาฆ่าได้อย่างไร
เมื่อถามว่า หมายความว่าทนายมอง worst case คือโอกาสเป็นไปได้ที่แย่ที่สุดสำหรับลุงพลในชั้นอุทธรณ์ คือพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เป็น ประมาททำให้น้องเสียชีวิต ใช่หรือไม่ นายสุรชัย ตอบทันทีว่า ไม่ใช่ โดยมองว่า worst case สำหรับลุงพลคือ “ยกฟ้อง”
เมื่อถามว่าทำไมถึงมั่นใจ เพราะชั้นอุทธรณ์สืบพยานเพิ่มไม่ได้ และชั้นต้นศาลก็พิพากษาแล้วว่าผิด นายสุรชัย บอกว่า กรรมการที่พิจารณาในศาลชั้นต้นมี 3 ส่วน ซึ่งจากย่อหน้าสุดท้ายของคำพิพากษา ที่ระบุว่า อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 และ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร เห็นว่าพยานหลักฐานฝ่านโจทย์มีข้อสงสัยตามสมควร ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยและพิพากษายกฟ้องนั้น หมายว่า 2 ใน 3 ส่วนเห็นว่าควรยก และเป็น 2 คนที่มีประสบการณ์มากกว่าผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน แต่กฎหมายให้เอกสิทธิ์ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเป็นผู้ชี้ขาด จึงมองว่าลุงพลแค่แพ้ยกแรก และแพ้ที่กรรมการ ซึ่งพอไปถึงชั้นอุทธรณ์จะต้องมีการเปลี่ยนกรรมการ และเป็นกรรมการที่มีประสบการณ์มากกว่าศาลชั้นต้น
โดยกระบวนการหลังจากนี้ นายสุรชัย บอกว่า ตัวเองอยู่ระหว่างขอคัดคำพิพากษาฉบับเต็มจากศาล ซึ่งทราบว่าต้องรออย่างน้อย 15 วัน จึงจะได้คำพิพากษาฉบับเต็ม หลังจากนั้นจึงจะเขียนคำอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษา โดยคำอุทธรณ์ของฝ่ายลุงพล ตั้งใจจะยื่นภายในเดือนก.พ. 2567 เพราะเตรียมไว้บ้างแล้ว แต่ต้องรอฝ่ายอัยการและฝ่ายแม่ชมพู่ด้วย ซึ่งก็ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายจะยื่นเมื่อไหร่ เมื่อยื่นครบทุกฝ่าย ก็ต้องเขียนแก้คำร้องของอีกฝ่าย ก่อนจะมีการรวบรวมให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าอย่างเร็วน่าจะทราบผลช่วงปลายปี 2567 ไปถึงต้นปี 2568
ส่วนกรณีการค้นรถที่ทนายฝ่ายลุงพลตั้งคำถาม ทีมข่าวพีพีทีวีตรวจสอบกลับไปยัง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะหนึ่งในชุดสืบสวนคดีนี้ ปฏิเสธที่จะให้ส้มภาษณ์เพิ่มเติม บอกเพียงว่าทนายฝ่ายจำเลยมีสิทธิ์ที่จะยื่นในชั้นอุทธรณ์ตามขั้นตอน แต่ขอยืนยันว่าทุกพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนค้นรถ หรือ การตรวจเส้นผม ตำรวจทำถูกต้อง และได้มาซึ่งพยานหลักฐานชอบด้วยกฎหมาย ศาลจึงรับฟ้องและมีคำตัดสิน
สภาพอากาศวันนี้ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลงอีก 2-3 องศา
บุกช่วยเสือ 15 ตัว จากสวนสัตว์เอกชนปิดตัวหลังโควิด ปล่อยเสือป่วย-ผอมโซ