จากกรณีโซเชียลมีการแชร์คลิปรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองคันหนึ่งจอดขวางถนน จากนั้นรถเก๋งคันสีขาวได้เร่งเครื่องพุ่งชนรถแท็กซี่อย่างแรง ก่อนจะถอยรถเร่งครื่องพุ่งชนรถแท็กซี่ซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะขับรถหลบหนีไปนั้น
พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เล่าถึงการสอบปากคำ ผู้ก่อเหตุ บอกว่า พูดคุยสื่อสารได้ แต่ก็สังเกตเห็นว่า ไม่ปกติ เบื้องต้นเห็นว่าผู้ก่อเหตุรู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังไม่ได้กล่าวคำขอโทษใดใด ตอนนี้ขอรอผลการรักษาตัวก่อนเพื่อจะได้ชัดเจน จึงจะพิจารณาคดีให้ชัดเจน
แท็กซี่โดนเก๋งขาวหัวร้อนชนแล้วหนีขับขวางโดนชนซ้ำ
รู้ตัวแล้ว! คนขับเก๋งขาวหัวร้อน เบื้องต้นอ้างคุมรถไม่ได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเคยก่อเหตุบ่อยครั้ง พ.ต.อ.ประสพโชค บอกว่า ตรวจสอบอาชญากรรมแล้วตอนนี้ยังไม่พบคดีอื่น ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหา เพราะ ผู้ก่อเหตุและแม่เข้ามาพบตำรวจเองก่อน และแม่อยากให้พาตัวไปรักษา รวมถึงตรวจร่างกายโดยละเอียด ทั้งสารเคมีในร่างกาย และ สารเสพติด ตอนนี้ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน
พ.ต.อ.ประสพโชค ยังบอกอีกว่า แม่ของผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่าลูกชายเคยมีประวัติเข้ารับการรักษาสภาวะสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี พร้อมนำใบประวัติการรักษามายืนยันซึ่งพบว่ามีการรักษาตั้งแต่ปี 2565 และช่วงหลังผู้ก่อเหตุหนีการรักษา
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า ได้คุยกับแม่ของผู้ก่อเหตุ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง พร้อมบอกประวัติลูกชาย อ้างว่าลูกชายเป็นนักกีฬาระหว่างประเทศ แต่มีอาการป่วยทางจิตและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมาหลายปีแล้ว
โดยแต่ก่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ลูกชายพักการเรียกไปบวชเป็นพระ 2 เดือน ก่อนสึกออกมาศึกษาพระธรรมมา 10 ปี จนกระทั่งเพื่อนไปหาและขอให้สึกออกมาเรียนต่อให้จบ ลูกชายก็สึกออกมาเรียน ระหว่างนั้นมักจะมีอาการคลั่ง คิดว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าตลอดเวลา แม่จึงพาไปรักษาและต้องกินยาอยู่ตลอด
ต่อมาลูกชายมีอาการคลั่งและหนีออกจากบ้านจังหวัดชลบุรี จนกระทั่งวันที่ 10 มกราคม แม่รู้ว่าลูกหนีมาที่กรุงเทพ จึงมาตามตัวและพาไปที่โรงพยาบาล ต้องการให้หมอฉีดยาให้หลับจะได้พาไปรักษาที่โรงพยาบาลเดิมแต่ทางโรงพยาบาลไม่ฉีดยาให้ถึงต้องพาลูกกลับบ้าน แต่หลังจากนั้นก็หลบหนีออกจากบ้านอีก ไม่สามารถติดต่อได้จนกระทั่งมาพบว่าก่อเหตุตามที่ปรากฏในคลิป
นายเอกภพ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุอยากเป็นนักกีฬา แม่เลยเปิดฟิตเนสให้ จนลูกชายฝึกฝนจนได้เป็นนักกีฬาระหว่างประเทศ โดยทีมข่าวได้ข้อมูลจากลุงของผู้ก่อเหตุไม่ให้สัมภาษณ์แต่ให้ข้อมูลยืนยันว่า หลานมีอาการป่วยทางจิตจริง ซึ่งปกติแล้วหลานเป็นนักกีฬาเพาะกายแข็งทั้งในไทยและต่างประเทศซึ่งล่าสุดเพิ่งได้เพาะกายรางวัลที่หนึ่งในการแข่งขันที่พัทยา และเพิ่งกลับมาจากการแข่งขันเพาะกายที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย
เบื้องต้นทีมข่าวพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นนักกีฬาเพาะกายจริงโดยมีการเปิดช่อง TikTok ทำคอนเทนท์เกี่ยวกับการเพาะกายด้วย มีผู้ติดตามกว่า 10,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการสอนวิธีการออกกำลังกาย และลงคลิปการแข่งขันเพาะกายบนเทวีต่างๆ
พยากรณ์อากาศล่วงหน้า เตือนฝนถล่ม ก่อนกลับมาหนาวอีกรอบ
อัปเดตเอลนีโญใกล้จบ ไทยร้อนเร็ว-ร้อนหนัก แนะเตรียมเงินจ่ายค่าแอร์