จากเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งต้นเพลิงเกิดที่โซนปีกซ้ายของอาคาร ฝั่งห้องของนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นห้องประชุมย่อย ก่อนจะลุกลามไปยังห้องคณะที่ปรึกษานายไชยา พรหมา โดยมีการคาดการณ์สาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อเท็จจริงนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) ได้เดินทางมาทำการตรวจพิสูจน์หาหลักฐานในการเกิดเหตุ
ไฟไหม้ อาคารกระทรวงเกษตรฯ เร่งฉีดน้ำสกัด จนท.ควบคุมเพลิงได้แล้ว
เพลิงไหม้ กระทรวงเกษตรฯใกล้ห้องที่ปรึกษารมช.ไชยา คาดไฟฟ้าลัดวงจร
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาากลาง (พฐก.) ได้เดินทางมาทำการตรวจพิสูจน์หาหลักฐานในการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เบื้องต้นจุดที่เกิดเพลิงลึกไหม้ เป็นชั้น 2 โซนฝั่งห้องเตรียมอาหารข้างห้องคณะทำงานของนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ จากตั้นเพลิงลึกลามไปยังห้องที่ปรึกษา โดยโครงสร้างหลักของอาคารเป็นอาคารเก่า จึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยทางขึ้นฝั่งอาคารปีกซ้ายเจ้าหน้าที่ได้นำโปลิสไลน์ และแผงเหล็กมากั้นไม่อนุญาตให้ใครขึ้นประตูฝั่งใกล้ที่เกิดเหตุเด็ดขาด
โดยมีรายงานว่าในเวลา 14.40 น. ของวันนี้ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเข้าตรวจสอบอาคารด้วย
ขณะเดียวกันที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า ห้องโซนที่ถูกเพลิงไหม้ อาจมีความเชื่อโยงกับหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงเกษตรฯที่ตำรวตกำลังตรวจสอบเนื่องจากถูกแก๊งของนายศรีสุวรรณและพวกตบทรัพย์ซึ่งเป็นคนละกรณีกับกรมการข้าว เนื่องจากอาจจะมีเอกสารหรือพยานหลักฐานอื่นที่ไปเชื่อมโยงบุคคลในแก๊งตบทรัพย์
ขณะที่ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระหว่างการให้สัมภาษณ์ ร้อยเอกมนัสพรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ มีท่าทีชี้ไม้ชี้มือ พูดในลักษณะไม่พอใจ ในช่วงประเด็นที่นายเจ๋ง ดอกจิก เดินทางเข้ามาที่กระทรวงแต่ไม่เข้ามาไหว้เจ้าที่ ไหว้เจ้ากระทรวง แต่กลับเดินไปยังห้องของบุคคลท่านหนึ่งเป็นประจำและชี้ไปทางฝั่งซ้ายของตึกซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งวันที่ร้อยเอ็ดธรรมรัตน์ให้สัมภาษณ์ตรงกับวันศุกร์แต่กลับเกิดเหตุเพลิงไหม้ในช่วงค่ำวันต่อมา