ในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและพยายามจำหน่าย” และหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.189/2564 ลงวันที่ 12 ต.ค. 2564 ข้อหา “พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ-เมทแอมเฟตามีน)”
สืบนครบาล ได้เปิดเผยถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหา 2 ราย เริ่มต้นมาจาก “นายท็อป” แอบอ้างตนเป็นแพทย์อายุรกรรมโรคหัวใจโรงพยาบาลดัง ก่อนจะสร้างสัมพันธ์ลึกซึ้งแบบชายรักชายกับเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ หลอกล่อให้เสพยาเสพติด
โดยเหยื่อรายล่าสุดถูกลวงให้เสพยาเสพติด โดยนายท็อป อ้างว่าเป็นยาบำรุง กระทั่งเหยื่อติดสารเสพติดงอมแงม ตกเป็นธาตุกามแบบถอนตัวไม่ขึ้น ถูกหลอกให้ถ่ายคลิปลับ ถูกถลุงเงินไปหลายล้านบาท เพื่อแลกกับการได้เสพยา จนเหยื่อแทบสิ้นเนื้อประดาตัว
จากการสืบสวนติดตามทราบว่า นายท็อป เป็นบุคคลตามหมายจับ 2 หมายในคดีค้ายาเสพติด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงส่งเจ้าหน้าที่อำพรางแฝงตัวเข้าวงการ LGTBQ+ จนพบเบาะแสว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นลูกสมุนของเอเย่นค้ายาย่านปากเกร็ดที่มีดีกรีเป็นถึงข้าราชการโดยมักรวมพลเหล่าข้าราชการที่มีรสนิยมชายรักชายมามั่วสุมปาตี้ยาเสพติดกันอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งย่านรัตนาธิเบศร์
จนกระทั่งวันที่ 26 มี.ค. 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช จึงนำกำลังชุดสืบนครบาลบุกไปที่ห้องพักที่ใช้มั่วสุมดังกล่าว เมื่อตำรวจเคาะประตูภายในห้องพัก ผู้ต้องหาพยายามทำลายพยานหลักฐานไปบางส่วน เมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปได้ก็พบ นายท็อป อยู่ภายในห้องกับนายเศรษฐยศ หรือ เจ๊เก่ง ซึ่งเป็นข้าราชการครูระดับรอง ผอ.โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี
แรกเริ่มเจ้าตัวมีท่าทีบ่ายเบี่ยงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เมื่อตรวจค้นห้องพัก ก็พบยาเสพติดหลายรายการในลักษณะเตรียมแบ่งขาย พบสมุดบันทึกการซื้อขายยาเสพติดจำนวนมาก และยังพบยากระตุ้นอารมณ์ ถุงยาง เจลหล่อลื่น และหนังลามกจำนวนมาก
นายเศรษฐยศ อ้างว่าอุปกรณ์ต่างๆนั้นไว้ใช้สอนหนังสือในโรงเรียน จากการขยายผลของชุดจับกุมพบว่านายเศรษฐยศ เป็นถึงระดับหัวจ่ายที่คอยส่งยาเสพติดให้กับข้าราชการอีกหลายคน พบเงินหมุนเวียนในห้วงเดือนที่ผ่านมาเป็นจำนวนกว่า 1,300,000 บาท เมื่อตรวจสอบพบ 2 รายมีสารเสพติดในร่างกาย ท้ายสุดทั้ง 2 รายยอมจำนนและรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมในที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นคนที่มีตำแหน่งหน้าที่ทางสังคม มีความรู้ และยังมีการสร้างเครือข่ายโดยการใช้ความเชื่อมโยงทางจิตใจเพราะเป็นกลุ่มที่มีรสนิยมเดียวกัน ส่วนใหญ่ล้วนเป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่ และที่น่ากลัวที่สุดคือระดับหัวหน้าขบวนการเป็นครูที่ต้องเป็นแม่พิมพ์ให้กับเหล่าอนาคตของชาติ และ ยังมีตำแหน่งระดับสูงในโรงเรียน ถือเป็นภัยต่อเยาวชนที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนอย่างยิ่ง ทั้งนี้ จะขยายผลให้ถึงที่สุด จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากผู้ใดมีเบาะแส โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
สภาฯ โหวตผ่านร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม
ผู้เชี่ยวชาญชี้ เรือชนสะพานบัลติมอร์จนถล่ม เป็นเรื่อง “ผิดปกติ”
10 เม.ย.นี้ ดิจิทัล วอลเล็ต ชัดเจนทุกอย่าง สมบูรณ์ ตอบโจทย์ทุกฝ่าย