ฝ่ายปกครองโคราชปฏิเสธเรียกรับส่วย อ้างแค่ยืมเงินครั้งสองครั้ง

เผยแพร่ 27 เม.ย. 2567 ,08:49น.

ฝ่ายปกครองโคราชปฏิเสธ กรณีผู้ประกอบการสถานบันเทิงเข้าร้องเรียนผู้ว่าฯ นครราชสีมา ปมถูกเรียกรับส่วย เจ้าตัวอ้างไม่ได้รับ อ้างแค่ยืมเงินครั้งสองครั้ง

จากกรณีนายนิสิต วงศ์หทัย ในฐานะหัวหน้าชุดฝ่ายปกครองจัดระเบียบสังคม นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้น สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขต อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ช่วงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา

ซึ่งวันดังกล่าวมีการแสดงคอนเสิร์ตศิลปินดัง ปรากฏว่าผลการตรวจค้น พบมีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ เจ้าหน้าที่จึงสั่งระงับคอนเสิร์ตศิลปินดังกลางอากาศ

ฝ่ายปกครองโคราชปฏิเสธเรียกรับส่วย อ้างแค่ยืมเงินครั้งสองครั้ง — ภาพขณะชุดฝ่ายปกครองเข้าตรวจค้นสถานบันเทิง

สร้างความเสียหายให้ร้านมูลค่ากว่า 3 แสนบาท และยังถูกดำเนินคดีข้อหาไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา และข้อหาปล่อยให้เด็กอายุไม่ถึง 20 ปีจำนวน 3 คนเข้าไปใช้บริการ

เหตุการณ์นี้ทำให้ นายพิชิตชัย นิสสัยหาญ ผู้ประกอบการสถานบันเทิงดังกล่าวไม่พอใจ มองว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่มีเยาวชนเล็ดลอดเข้าไป เนื่องจากมีการจัดแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งทางร้านได้แสดงเอกสารใบอนุญาตถูกต้อง แต่ยังถูกสั่งปิดและถูกดำเนินคดีถึง 2 ข้อหา ทำให้ร้านได้รับความเสียหาย

ขณะเดียวกันนายพิชิตชัย พบว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมชุดเดียวกันนี้ มีการไปตรวจสถานบริการที่อยู่ใกล้เคียงที่มีการทำผิดกฎหมายแต่กลับไม่มีการสั่งปิดร้าน มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งร้านของตัวเอง ตั้งข้อสงสัยเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 หรือไม่

นอกจากนี้นายพิชิตชัยยังเปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ชุดนี้เรียกรับผลประโยชน์จากทางร้าน ทั้งขอสนับสนุนเงินและเหล้า ทางร้านจำยอมโอนเงินให้ไปหลายครั้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2567 เป็นการโอนเข้าบัญชีของหัวหน้าชุด ครั้งละ 3,000 - 15,000 บาท เป็นเงินรวมมากกว่า 30,000 บาท

พร้อมนำหลักฐานการโอนเงิน และข้อความแชตไลน์ ที่ระบุว่า “...ขออนุเคราะห์สนับสนุนงบเลี้ยงทีมงานป้องกันที่เขาใหญ่ ปากช่อง ด้วยครับ...” พร้อมเลขบัญชีมาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และขอให้ย้ายหัวหน้าชุดผู้ถูกกล่าวหาไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นในระหว่างการสอบสวน

ระหว่างที่นายพิชิตชัยมายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ก็มีการเผชิญหน้ากับคู่กรณี คือนายนิสิต วงศ์หทัย ป้องกันจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าชุดฝ่ายปกครอง ผู้ถูกกล่าวหา

โดยนายนิสิต ได้ยืนรอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ระบุว่า คืนวันที่ 19 เมษายน 2567 ได้นำกำลังจากหลายฝ่ายเข้าตรวจตราสถานบันเทิง เพราะได้รับร้องเรียนมา กระทั่งพบการกระทำความผิดของสถานบันเทิงดังกล่าวจริง คือไม่แสดงใบอนุญาตจำหน่ายสุรา และปล่อยให้เด็กต่ำกว่า 20 ปีมาใช้บริการ จึงสั่งให้ปิดร้านทันที โดยไม่รู้ว่ามีคอนเสิร์ต และส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ยืนยันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

ส่วนกรณีกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์ ตัวเองขอปฏิเสธไม่เป็นความจริง ไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด เป็นการยืมเงินจากคนที่รู้จักกัน เหมือนพี่น้องกัน น่าจะเคยยืมเงินแค่ครั้งสองครั้ง ซึ่งการกล่าวหาแบบนี้น่าจะมีมูลเหตุมาจากความขุ่นข้องหมองใจ เพราะว่าร้านเคยทำผิดกฎหมาย และเคยถูกสั่งปิดมาแล้ว ยืนยันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร

ล่าสุด นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ปลัดจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้บังคับบัญชาชั้นต้นโดยตรง สอบสวนข้อเท็จจริงเร่งด่วน สิ่งใดที่ขัดต่อกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ผิดว่าไปตามผิด โดยเฉพาะเรื่องการรับส่วย รับสินบน ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง หากทำถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องให้ความเป็นธรรม แน่นอนหากใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษทั้งทางวินัยและอาญา คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานน่าจะสรุปผลได้ ไม่น่ามีอะไรสลับซับซ้อน