หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียมีการจับกุม “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี นักโทษหลบหนีจากประเทศไทย ซึ่งทางการอินโดนีเซียเตรียมจะส่งตัวกลับไทยเร็วๆ นี้นั้น
ก่อนจะนำไปสู่ปฏิบัติการจับกุมดังกล่าว พบว่าเบาะแสที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย สามารถขยายผล และแกะรอยจนสามารถรวบตัว “เสี่ยแป้ง”ได้ก็คือเหตุการณ์ที่ตำรวจพัทลุงบุกไปช่วยตัวประกันชาวอินโดนีเซีย ที่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2567 ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง นำกำลังเข้าช่วยเหลือชายชาวอินโดนีเซีย หลังถูกอุ้มลักพาตัวมาเรียกค่าไถ่ ในพื้นที่ จ.พัทลุง ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่นายแดเนียล ซิโฮมบิง รองกงสุลสถานกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา ร้องขอทางการไทยให้ช่วยเหลือชาวอินโดนีเซีย ที่ถูกอุ้มเรียกค่าไถ่จากหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มายังหลบซ่อนพื้นที่จังหวัดพัทลุง
ทั้งนี้ตำรวจสามารถช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ คือนายชาวานา อายุ 29 ปี พร้อมจับกุมผู้ต้องหาคือนายวีระศักดิ์ ทองอุบล หรือนายปาน อายุ 36 ปี (เป็นลูกน้องของเสี่ยแป้ง) พร้อมปืนสั้น จำนวน 1 กระบอก นอกจากนี้ตำรวจยังพบชาวอินโดนีเซียถูกกักขังอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวอีก 2 คนอีกด้วย และมีล่ามภาษาอินโดฯเป็นชาวนราธิวาส 2 คน ตำรวจสืบสวนหาข้อมูลพบว่าบ้านที่ใช้ก่อเหตุ เป็นบ้านร้าง มีน้องของเมียเสี่ยแป้งเป็นเจ้าของ
จากนั้นตำรวจได้เค้นสอบปากคำทั้งผู้ต้องหา ผู้เสียหาย และผู้ที่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เบื้องต้นพบว่าชาวอินโดนีเซียอีก 2 คน ที่พบขณะช่วยเหลือนายชาวนา ปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นกับการอุ้มตัวมาเรียกค่าไถ่แต่ถูกหลอกให้เข้ามาพักที่นี่
ต่อมานายชาวานา สารภาพภายหลังว่า จริง ๆแล้วเขาไม่ได้ถูกเรียกค่าไถ่ แต่ก่อนหน้านี้มีพ่อค้ายาเสพติดชาวอินโดฯ ติดค้างค่าไอซ์กับแป้ง นาโหนด จำนวน 2 ล้านบาท จึงส่งตัวเองมาเป็นตัวประกัน แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีการจ่ายเงินส่วนที่เหลือ ตัวเขาอยากกลับแล้ว จึงกุเรื่องแจ้งน้องสาวว่าถูกเรียนค่าไถ่
แล้วให้คนช่วยจัดฉากซ้อมทรมาน ส่งคลิปไปให้น้องสาว จนน้องโอนเงินมาให้ก้อนแรก 8 แสนบาท ต่อมานายชาวานา ก็ได้แอบส่งโลเคชันให้กับน้องสาว ด้านน้องสาวเข้าใจว่าพี่ชายถูกจับตัวเรียกค่าไถ่จริง ๆ จึงส่งเรื่องไปที่สถานทูตอินโดนีเชียที่สงขลา ให้ช่วยเหลือพี่ชาย เป็นที่มาของการบุกช่วยเหลือดังกล่าว
จากนั้นชุดสืบสวนได้นำผู้ต้องหา 2 คนสำคัญ คือนายปาน ลูกน้องคนสนิทเสี่ยแป้ง และดาบเพลิน ญาติเสี่ยแป้ง มาเค้นสอบปากคำอย่างละเอียด ตอนแรกดาบเพลิน ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมด แต่สุดก็รับสารภาพ และเปิดเผยแหล่งกบดานของเสี่ยแป้งที่อินโดนีเซีย
ดาบเพลิน หรือ ด.ต.หญิง เพลินพิศ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการจับกุมตัวเสี่ยแป้งครั้งนี้ ดาบเพลินมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวน ที่สภ.หนองเอื้อง จ.ตรัง (แต่ไปช่วยปฏิบัติราชการ ณ สำนักงานตำรวจภูธร ภาค 9 สงขลา) ทำงานเป็นหน้าห้องของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของตำรวจภูธรภาค 9 ที่ผ่านมาคอยส่งสัญญาณและแจ้งความเคลื่อนไหวของตำรวจให้กับเสี่ยแป้ง เพื่อใช้ในการหลบหนี
โดยดาบเพลิน ถูกจับได้เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2567 ที่ร้านตำนานหมูกระทะ ท้องที่ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตอนนี้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ในขณะที่ พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จุมพฏ เลี่ยมแก้ว ผกก.สภ.เมืองพัทลุง ได้มอบหมายให้ ตร.ชุดเฉพาะกิจ สภ.เมืองพัทลุง ไปรับตัวนายชาวานา อายุ 29 ปี เหยื่อที่ถูกคนร้ายอุ้มมาเรียกค่าไถ่จำนวน 2.3 ล้านบาท และนายฮารี ยาดี อายุ 30 ปี และนายชาร์ มินี อายุ 40 ปี 3 ชาวอินโดนีเซีย จาก “สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์” อ.รัตภูมิ จ.สงขลา มาให้ชุดสอบสวนในคดีดังกล่าวสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องประชุม สภ.เมืองพัทลุง เพื่อให้คดีมีความละเอียดครบถ้วน สมบูรณ์ มีความรัดกุมเพิ่มขึ้น
ผลวอลเลย์บอลหญิงไทย ชนะ ฝรั่งเศส นัดที่ 2 ศึกเนชั่นส์ ลีก 2024 สัปดาห์ 2
1 มิ.ย.67! กฟน.ประกาศ “ดับไฟ” 11 พื้นที่ กทม.-สมุทรปราการ-นนทบุรี
ชวนสร้างมีม "ป้ายกรุงเทพ" จากเว็บ "BKK Sticker" ออกแบบได้ด้วยตัวเอง!
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
