ภาพเหตุการณ์ ขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งถูกรุมทำร้าย จนต้องก้มกราบเพื่อร้องขอชีวิต โดยทราบว่าเหตุการณ์เกิดที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว และปมเหตุมาจากเรื่องการโยนกุญแจ ลงมาถูกหลังคารถจนบุบทำให้เกิดการโต้เถียงกัน และนำมาสู่การรุมทำร้าย ตามภาพที่ปรากฏ
ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับ คุณไอซ์ อายุ 36 ปี ผู้เสียหายที่ถูกรุมทำร้าย เธอเล่าว่าคืนเกิดเหตุ ช่วง 4 ทุ่มของวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา เธอได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวายกัน ลักษณะตะโกนคุย จึงโผล่หน้าจากระเบียงห้องมาดู
และเห็นคนกำลังเดินหาของอยู่ใกล้ๆ รถของเธอ จึงเกิดความสงสัยเดินลงมาดู และปรากฏว่า หลังคารถมีรอยบุบ จึงสอบถาม รปภ. คอนโดทราบว่า มีการโยนสิ่งของลงมา ถูกหลังคารถเธอจริง และเมื่อมองขึ้นไปก็เห็น วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ชะโงกหน้ามาพอดีเธอจึงตะโกนถามว่า ได้โยนอะไรมา โดนรถเธอรึเปล่า แต่เนื่องจากระยะ ความสูงของห้อง กับที่จอดรถ ทำให้ต้องตะโกนคุย จึงเป็นลักษณะเหมือน ตะโกนต่อว่ากัน ทำให้ฝั่งนั้นไม่พอใจเดินลงมา หาเธอ ด้วยกัน 3 คนเป็นผู้หญิง 2 คน ผู้ชายหนึ่งคน (LGBTQ)
โดยฝั่งคู่กรณีปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนทำ จึงเกิดการโต้เถียง เธอจึงบอกว่าจะไปเปิดกล้องวงจรปิดตรวจเช็ค จากนั้นก็มีการ ท้าทายและ ต่อว่ากันไปมา ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตัวเองยอมรับว่าเริ่มมีอารมณ์โมโห และจังหวะที่สามีโทรศัพท์หาเธอพอดี เธอจึงเล่าเรื่องให้ฟัง และบอกให้สามีรีบมา เมื่อทางฟังคู่กรณีได้ยินแบบนั้น จึงโทรตามพวกมา และพรุมทำร้ายเธอ
จังหวะนั้น เธอสังเกตเห็นว่า 1 ในกลุ่มคู่กรณี เป็นผู้ชายที่สวมหมวกกันน็อคและที่ขามีกำไลอีเอ็มติดอยู่ ถือมีดออกมา จะแทง รปภ. ด้วยความตกใจ จึงพยายามร้องขอ ให้หยุดทำร้ายและพยายามวิ่งหนี แต่ก็จนมุม สุดท้ายยอมที่จะก้มกราบเท้า กลุ่มคู่กรณี ร้องขอชีวิต พร้อมยอมรับว่าเป็นคนผิดเองทั้งหมด ถึงขั้นที่เธอต้องโกหกพบคู่กรณีว่ากำลังตั้งท้องอยู่ เพื่อจะเอาตัวรอด หลังเกิดเรื่องทางผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สน.ลาดพร้าว เผยว่า มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบบุคคลที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดว่าเป็นผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน โดยมีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีรวมด้วย ส่วนบุคคลอื่นๆที่ปรากฏที่ปรากฏอยู่ในภาพกล้องวงจรปิดมีการเดินทางไปที่เกิดเหตุด้วยก็จริงแต่ไม่ได้มีการร่วมกันทำร้าย
ส่วนกรณีที่หนึ่งในผู้ก่อเหตุพบว่า มีการสวมกำไล EM ที่ข้อเท้า นั้น ตนยืนยันว่าเป็นความจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบว่า บุคคลดังกล่าวโดนข้อหาคดีอะไร
และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทางตำรวจได้มีการนัดฝั่งผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยจะมีการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ส่วนเจ้าของห้องไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อเหตุแต่ก็มีการเชิญตัวมาสอบปากคำซึ่งก็พบว่าเป็นเยาวชนอาจจะต้องประสานเรียกผู้ปกครองมาด้วย