วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.00 น. ร.ต.ท.หญิง ณัฐณิชา โภคสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตในบ้านพัก เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 199/706 หมู่บ้านการเคหะ 2 ตำบลสามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สายตรวจ 191 แพทย์เวร รพ.อุดรธานี และอาสากู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ โดยมีประธานชุมชนฯ และเพื่อนบ้าน ที่ทราบข่าว
เดินมาดูบ้านที่เกิดเหตุ และร่วมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นยังรู้สึกหลอนจนขนลุก เนื่องจากคืนที่ผ่านมาสุนัขในชุมชน มาเห่าหอนที่หน้าบ้านหลังนี้ทั้งคืน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น ที่บริเวณห้องน้ำชั้นล่าง พบศพนายพิทยา สุขเฉลิมชัย อายุ 59 ปี ผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว ชาว ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เปลือยกายนอนคว่ำหน้า สภาพศพอืดจนคล้ำ มีคราบน้ำเหลืองไหลนองเต็มพื้นห้องน้ำ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ภายในบ้านไม่มีร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน โดยมีนายจิตตพัฒน์ เขมอนันต์โชคดี อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านให้เช่า ร่วมให้ข้อมูลและตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้าน ซึ่งมีพระเครื่องใหม่ จำนวนมากอยู่ในกล่องภายในบ้านและหน้าบ้าน
นายจิตตพัฒน์ฯ เจ้าของบ้านให้เช่า เล่าว่า ผู้ตายมาเช่าบ้านอยู่เกือบ 1 ปีแล้ว ผู้ตายจะทำบัญชีที่บ้าน ขายพระเครื่องทางออนไลน์ ปกติจะต้องจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 6,500 บาท จ่ายทุกวันที่ 15 ที่ผ่านมาจ่ายตรงตลอด แต่เดือนนี้เงียบไป ก็คิดว่าจะผัดผ่อนให้ถึงวันที่ 18 ตนพยายามโทรหาผู้ตาย แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนเลยผ่านไปหลายวัน ก็คิดแล้วว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดี เพราะรู้ว่าคนตายมีโรคประจำตัว ท้องเขาจะบวมป่อง แต่ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร เมื่อวานนี้ตนก็เข้ามาที่บ้าน แต่ไม่ได้กลิ่นอะไร แต่พอมาถึงแง้มหน้าต่างดู ก็ได้กลิ่นเหม็น มั่นใจว่าใช่แน่เลย ตกใจมาก ก่อนรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
นายสุวิทย์ ครองยุทธ อายุ 51ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้ตายอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว จะออกบ้านช่วงกลางวัน กลางคืนก็จะขับจักรยานยนต์เข้าออกบ้างเพื่อไปซื้อกับข้าว ตนเองออกไปทำงาน กลับบ้านมาตอนค่ำก็จะเห็นกันบ้าง วันนี้เจ้าของบ้านเช่าโทรมาหาตนให้ไปช่วยดูบ้านเช่าให้หน่อย เนื่องจากโทรติดต่อคนตายไม่ได้หลายวัน ติดต่อได้ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กรกฏาคม โทรหาอีกครั้งวันที่ 9 กรกฎาคม ก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย เมื่อตนเดินมาหน้าบ้าน คิดในใจแล้วว่า 50 เปอร์เซ็นต์ต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ จึงไปชวนพี่คนกวาดถนน มาช่วยกันเป็นพยาน
“แต่พอยื่นหน้าเข้าไปในบ้านก็ได้กลิ่นเหม็นเหมือนหนูตายแรงมาก พวกตนจึงถอยออกมา แล้วรีบโทรแจ้งเจ้าของบ้าน ประธานชุมชน และแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เมื่อคืนนี้ตนเอาขยะออกมาทิ้ง หมาที่บ้านก็ตามออกมา หมาแถวนี้ก็พากันเห่าหอนอยู่หน้าบ้านหลังนี้ ตนรู้สึกเย็นวาบที่แขนจนขนลุก จึงรีบกลับเข้าไปในบ้าน แต่หมาก็ยังไม่หยุดเห่าหอน ยังรวมกลุ่มหอนเกลียวเป็นเวลานานมาก จึงรีบเข้าบ้านทันที บ้านหลังนี้อยู่ทางสามแพร่ง เจ้าของบ้านคนก่อนหน้าก็เคยสร้างศาลขนาดใหญ่เอาไว้ หมาก็มีเห่าหอนบ้างแต่ไม่นาน เช้ามาก็มาเจอศพ หมามันคงเห็นผีเมื่อคืนนี้”
เบื้องต้นตำรวจได้บันทึกภาพและเก็บหลักฐานภายในบ้านไว้ทั้งหมด สันนิษฐานว่าผู้ตายโรคประจำตัวกำเริบ จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เนื่องจากอยู่ตัวคนเดียว จึงไม่มีใครทราบ กระทั่งมีคนมาพบเป็นศพอยู่ในห้องน้ำ ก่อนมอบศพให้อาสากู้ภัยฯ นำไปเก็บรักษาไว้ที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป