หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยเรื่องอุทธรณ์ของพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ซึ่งมีเนื้อหาว่า คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร.นั้นเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายนั้น
ทั้งนี้แม้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จะยังไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหว แต่คนในแวดวงตำรวจก็เชื่อว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จะสู้ต่อในชั้นศาลปกครองสูงสุด ซึ่งก็อาจยังพอมีโอกาสชนะ และกลับมาในเส้นทางสีกากีได้อีก
โดยทีมข่าวคุยกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร. ที่บอกว่าตัวเองก็เคยมีชะตากรรมไม่ต่างจาก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เพราะเคยถูกเซ็นให้ออกจากราชการเช่นกัน ในสมัยที่เป็น ผบ.ตร. เชื่อว่าสถานการณ์ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยังดี ที่เหลือเวลาอายุราชการถึง 7 ปี ดังนั้นรอคำตัดสินของศาล ก็ยังสามารถกลับมาเป็น ผบ.ตร.ได้ และเชื่อว่าพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จะได้กลับมา
ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิการเมืองกก.บห. 10 ปี
ลิงก์ดูโอลิมปิก 2024 เชียร์ "น้องเทนนิส" และนักกีฬาไทย วันที่ 7 ส.ค. 67
ผ้าคลุมรถกันความร้อน และ 4 ไอเทมที่ช่วยทำให้รถดูสวยใหม่ตลอดเวลา
โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปรียบเทียบให้ฟังว่า ในสมัยที่ตัวเองโดนให้ออกจากราชการตอนนั้นยังไม่มีคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมฯ ตัวเองจึงต้องไปร้องศาลปกครองซึ่งกินระยะเวลายาวนานถึง 6 ปี เพราะสู้กันตั้งแต่ชั้นต้นและชั้นสูงสุด พอชนะคดีก็ถึงเวลาเกษียณไม่มีโอกาสกลับมาเป็น ผบ.ตร.แล้ว ทั้งยังฟ้องกลับนายสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้เพราะเสียชีวิตไปก่อน
แต่กรณีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ การต่อสู้ในชั้นศาลปกครองสูงสุด ก็น่าจะใช้ระยะเวลาอยู่ที่ 3 ปี หากศาลตัดสินให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ชนะก็ยังมีเวลากลับมาเป็นผบ.ตร.ได้ นอกจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังเชียร์ให้ฟ้องร้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดควบคู่กันไปเลย ซึ่งหาก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ต้องการพยาน ตัวเองก็พร้อมจะไปเป็นพยานให้ด้วย
การสู้ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ไม่ได้สู้เพียงทางเดียว อีกหนทางหนึ่งเมื่อคำสั่งไม่ชอบ ก็ต้องไปศาลปกครอง และหากทำผิดกฎหมายอาญา ผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์สามารถ ฟ้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐได้ต่อศาลอาญาทุจริต คดีที่หนึ่งก็ต้องฟ้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐคนเดียวก่อน ส่วน ก.ตร. 12 คน อนุ ก.ตร. 15-16 คน เมื่อรู้ว่าไม่มีหน้าที่และอำนาจจะไปวินิจฉัยได้อย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่าพร้อมที่จะเป็นพยานในคดีให้กับพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ในชั้นศาลปกครองสูงสุดใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ กรณีศาลปกครองสูงสุด พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ต้องไปฟ้องเอาเอง ไม่มีไปเป็นพยาน แต่ที่เป็นพยานคือคดีอาญา ว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ออกคำสั่งชอบหรือไม่ ก.ตร. อนุ ก.ตร. ที่ไม่มีหน้าที่วินิจฉัยว่าคำสั่งของ พล.ต.อ.กิติ์รัฐชอบว่ามีอำนาจและหน้าที่หรือไม่ หรือแม้แต่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมก็มีหน้าที่และอำนาจแต่ต้องดูว่าสุจริตหรือไม่
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ระบุว่า สถานะของพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ตอนนี้ไม่ได้มีความเป็นตำรวจแล้ว ซึ่งการที่คณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมยืนตามคำสั่ง ผบ.ตร. ยิ่งตอกย้ำความชอบว่าสามารถนำขึ้นทูลเกล้าให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการได้ ส่วนจะไปฟ้องศาลปกครองก็เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่ต้องใช้เวลา 2-3 ปี
ซึ่งตามกฎหมายนั้นคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม เทียบได้กับศาลปกครองชั้นต้น หาก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ร้องไปศาลปกครองสูงสุด การพิจารณาก็เหมือนศาลทั่วไปคดีอาจพลิกได้ แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องยาก
ส่วนความเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.สิ้นสุดไปด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.วิรุตม์ ระบุว่า ตามกฎหมายเป็นเช่นนั้น แต่ก็บอกว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยังสามารถไปร้อง ต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ดำรงตำแหน่งรองผบ.ตร.ต่อไปจนกว่าศาลจะพิพากษาถึงที่สุด
แต่ พ.ต.อ.วิรุตม์ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ได้จบที่การให้ออกจากราชการ เพราะสาระสำคัญของคดีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ นั้น คือคดีที่อยู่กับ ป.ป.ช. ซึ่งก็หมายถึง คดีฟอกเงินจากเว็บพนันออนไลน์ ที่หาก ป.ป.ช.ชี้ว่าไม่มีมูลเรื่องก็จะจบ ซึ่งกรอบการพิจารณาคดีจะช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับป.ป.ช. แต่ตามกรอบเวลานั้นไม่เกิน 3 ปี