วันที่ 10 ส.ค. 2567 นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) และ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย แถลงผลการสกัดกั้น "ยาเสพติด" เตรียมลักลอบส่งออกทางเรือและทางอากาศ
นายธีรัชย์ กล่าวว่า กรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามา และส่งออกไปนอกราชอาณาจักรทุกช่องทาง
ล่าสุด ช่วงวันที่ 7-8 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้วิเคราะห์ใบขนสินค้าขาออกที่ความเสี่ยงลักลอบส่งออกยาเสพติดทางท่าเรือกรุงเทพ ตรวจพบใบขนส่งสินค้าต้องสงสัยระบุปลายทางไปที่ประเทศไต้หวัน เป็นเครื่องบดเนื้อและเครื่องทำลูกชิ้นรวม 3 เครื่อง พบเฮโรอีนซุกซ่อนในมอเตอร์เครื่องบดเนื้อ 2 เครื่อง 32 ก้อน มูลค่ากว่า 35 ล้านบาท เบื้องต้นพบว่าผู้กระทำผิดเป็นกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญที่จังหวัดเพชรบูรณ์และอยู่ระหว่างติดตามตัว จากนั้น ยังได้ตรวจสอบเสื้อชาวเขา พบ เฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ 600 ชิ้น มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
ส่วนการสกัดกั้นการลักลอบส่งออกยาเสพติดทางอากาศ ได้ร่วมกันตรวจสอบพัสดุไปรษณีย์ขาออกระหว่างประเทศ ที่ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ จำนวน 1 หีบห่อ ปลายทางประเทศออสเตรเลีย สินค้าเป็น Kitchenware พบเฮโรอีน หุ้มด้วยเทปบรรจุในซองพลาสติกปิดทับด้วยเทปสีเหลือง ซุกซ่อนในผนังด้านข้างของกล่องพัสดุไปรษณีย์ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 320 กรัม มูลค่ากว่า 960,000 บาท และยังตรวจพบยาไอซ์ อีก 1 หีบห่อ ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์พลาสติกไซด์พิมพ์ลายและกระดาษคาร์บอนซุกซ่อนอยู่ภายในปิ่นโต มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท
ด้านนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากร ได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนแล้ว หลังจากนี้ จะดำเนินการสืบสวนและขยายผลเพื่อจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
สำหรับการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดฐานพยายามส่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และมาตรา 242 และ 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 - 9 ส.ค. 2567 มีสถิติการจับกุมยาเสพติดทั้งสิ้น 123 คดี มูลค่ารวมเกือบ 1,000 ล้านบาท