จากอุทกภัยรุนแรงที่เกิดขึ้นในภาคเหนือตอนบนซึ่งครอบคลุมพื้นที่ของ จ.เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ ช่วงเดือนส.ค. ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเกิดจากฝนที่ตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.2567 และปริมาณฝนเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 – 21 ส.ค. 2567 เพราะอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านทางตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยในระยะนี้มีกำลังอ่อนถึงปานกลางและมีกำลังค่อนข้างแรงเป็นบางช่วง จึงทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องได้เกือบทุกวันและตกหนักถึงหนักมากในบางวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝนที่ตกในพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูง ทำให้มีปริมาณฝนตกสะสมเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเกิดเป็นน้ำท่าที่มีปริมาณมหาศาลไหลลงสู่ลุ่มน้ำหลักและลุ่มน้ำสาขาต่างๆ อย่างรวดเร็ว แม้ขณะนี้สถานการณ์ฝนที่ตกหนักเริ่มลดลงบ้างแล้วในทางตอนบนของภาคเหนือ แต่ยังต้องระวังมวลน้ำที่ยังไหลในลุ่มน้ำต่างๆ ที่จะเริ่มทยอยลงมาเรื่อยๆ
การคาดหมายสภาพอากาศในช่วงสัปดาห์หน้า (26 – 29 ส.ค. 2567) ต้องติดตามประกาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดว่าร่องมรสุมที่พาดผ่านทางบนของภาคเหนือจะเริ่มเลื่อนต่ำลง มาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น จึงทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักในพื้นที่ของภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาค กลาง กทม.และปริมณฑล อีกระยะ
สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยมีฝนตกหนักถึงมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก (อันดามัน) และคลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศดังกล่าวยังคงทำให้พื้นที่ที่เคยมี
น้ำท่วมขังในภาคเหนือยังมีความเสี่ยงเกิดอุทกภัยในระยะนี้ และพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยสูง ได้แก่ ภาคเหนือ จ.เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ ภาคใต้ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล ส่วนภาคตะวันออก ได้แก่ จ.จันทบุรี และตราด คลื่นลมมีกำลังแรง ระวังคลื่นซัดฝั่ง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ปภ. เตือน 31 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
“ชะอม” ผักกลิ่นฉุนแต่อร่อย เปิดประโยชน์และโทษที่บางคนควรหลีกเลี่ยง!