วันนี้ 28 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ทางด้านท้ายเขื่อนเพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลลงมาสมทบ อีกทั้งยังมีการรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบของพื้นที่ทางด้านท้ายน้ำ โดยปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,243 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.39 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 11.42 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 4.92 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 1,118 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,086 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
"เทพบิว" ภูริพล เข้าชิงชนะเลิศ วิ่ง 100 เมตร กรีฑาเยาวชนโลก
“พีพีทีวี” พร้อมยิงสด! พาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024
มรสุมกำลังแรงขึ้น-ร่องมรสุมเลื่อนต่ำลง จับตาหย่อมความกดอากาศต่ำ!
นอกจากนี้ สำนักงานชลประทานที่ 12 โดยกรมชลประทาน ได้มีการ แจ้งการปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน น้ำท่า โดยจะทยอยปรับการระบายน้ำจากเดิม 1,099 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นอัตรา 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงเวลา 12.00 น. เฉลี่ย ชั่วโมละ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
อย่างไรก็ตาม ทาง กรมชลประทาน ก็ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำ และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด