สำนักงานชลประทานที่ 1 ประกาศฉบับที่ 1 /2567 เรื่อง เฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำปิง (สถานี P.1 สะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่) ด้วยช่วงวันที่ 21-23 ก.ย.2567 ที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับอิทธิพลจากพายุ"ซูริก" ส่งผลให้มีฝนตกกระจายทั่วทั้งจังหวัดในเกณฑ์หนักมาก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงและน้ำสาสาขาในพื้นที่ตอนบนมีปริมาณพิ่มสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงอาจจะเอ่อลันตลิ่งเข้าท่วมพื้นพื้นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ (สูงกว่าระดับตลิ่งของสถานี P.1) ได้
เช็กรัฐจ่าย 10,000 บาท โอนเงินเข้าบัญชี ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ
น้ำปิงเพิ่มสูงระดับสีเหลือง เตือน! ชาวเมืองเชียงใหม่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง
ทำความรู้จักฟุตซอลทีมชาติฝรั่งเศส คู่ต่อกรไทย รอบ 16 ทีมฟุตซอลโลก 2024
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิง วันที่ 24 ก.ย. 2567 เวลา 10.00 น. ณ สถานี P.1 (แม่น้ำปิง ที่สะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่) ระดับน้ำ 3.35 เมตร (ต่ำกว่าระดับวิกฤต 0.35 เมตร) ปริมาณน้ำ 352.50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลลงมาจากลุ่มน้ำปิงตอนบน (น้ำปิงจากต้นน้ำอำเภอเชียงดาว น้ำแม่แตง น้ำแม่ริม และน้ำแม่เตาไห)
สำนักงานชลประทานที่ 1 คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ มีแนวโน้มเกินระดับวิกฤตที่ระดับ 3.70 เมตร โดยจะมีระดับสูงสุดที่ระดับ 3.90 เมตร (ปริมาณน้ำ438.00 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ในวันที่ 25 ก.ย.2567 เวลา 01.00 น.
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 1 จะติดตาม/เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่อง และขอให้พื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำปิง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำตามแนวแม่น้ำปิงที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวด้วย จึงขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง ดังนี้
1. โซน 1 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +3.70 เมตร บ้านป่าพร้าวนอก (บางส่วน) ร้านอาหารท่าน้ำ ทางลอดใต้สะพานป่าแดด
2. โซน 2 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +3.90 เมตร บ้านเด่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ (บ้านเด่น) หมู่บ้านจินดานิเวศน์
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำและเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ
2. เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อบูรมาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
3. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำทราบล่วงหน้า