วันที่ 23 ต.ค. 2567 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจมีการตรวจค้น 11 จุดของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ปว่า การค้นที่บริษัท ตนเองไม่ได้ติดใจในส่วนตรงนั้น เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติถูกต้อง มีหมายค้นชัดเจน แต่ติดใจตรงที่ทางตำรวจนำพนักงานของบริษัทฯ ไป 11 คน ไปสอบปากคำ มีทั้งเลขาของบอสพอล , น้องสาวบอสพอล , เลขาบอสปัน และพนักงานคนอื่นๆ
จากการสอบถามแต่ละคนที่โดนยึดมือถือ มีการเซ็นยินยอม เพราะถ้าไม่เซ็นจะไม่ได้กลับบ้าน เปรียบเสมือนการบังคับแบบกลายๆ และอีกอย่างมีการคุมตัวนานตั้งแต่ 12.00-20.00 น. ตนมองว่านานเกินไป เพราะเชิญไปในฐานะพยาน ไม่ใช่ผู้ต้องหา
และในการเชิญตัวไป เป็นการเชิญแบบไม่มีหมาย และทางตำรวจก็ได้มีการเขียนหมายตอนนั้น พอเชิญตัวมาถึงสอบสวนกลาง ก็ได้มีการเก็บโทรศัพท์ โดยไม่ให้ติดต่อกับบุคคลภายนอก ถ้าจะติดต่อต้องเปิด speakerphone ซึ่งตนมองว่าเกินเส้นของกฏหมาย
ในวันนี้ ตนมา สน.พหลโยธิน เป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น แต่ในอนาคตหากพนักงานบริษัทดิไอคอน จะดำเนินคดีจะได้ใช้เป็นหลักฐานชั้นศาลได้ โดยในวันศุกร์ตนจะพาพนักงานไปร้องที่สำนักงานจเรตำรวจ ให้ช่วยตรวจสอบการทำงานของตำรวจที่มีการไปค้นว่าอยู่ในกรอบของกฎหมายหรือไม่ และถ้าเวลาเหลือตนจะพาพนักงานชุดเดิมไปร้องที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย ว่ามีการดำเนินการที่อยู่นอกกรอบของรัฐธรรมนูญหรือไม่
ส่วนการออกหมายจับครั้งที่ 2 อยากสื่อสารไปถึงสำนักงานศาลยุติธรรมให้ดูแล ถ้าตำรวจไปขอหมายจับ ให้พิจารณาว่ามีเหตุสมควรหรือไม่ เป็นห่วงสิทธิ์ของทุกคน
ส่วนเรื่องที่ตำรวจไปยึดนาฬิกาของบอสพอลเป็นของปลอมนั้น ทนายวิฑูรย์ ตอบว่า ตนไม่รู้ว่าห้องที่เข้ายึดนั้นเป็นของใคร ปกติเวลาคุยกับบอสพอล จะคุยแค่เรื่องเนื้อคดีที่โดน คือ ฉ้อโกงประชาชน ไม่ได้คุยเรื่องอื่น
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ 24 ต.ค.ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมบอสพอลได้แล้วนั้น ตนเองติดภารกิจ แต่จะฝากหนังสือมอบอำนาจให้ทีมทนายความเข้าไปให้บอสพอล เซ็นมอบอำนาจให้ตนเองมาดำเนินคดีกับนักร้อง ก. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ มั่นใจว่ามีหลักฐานที่จะเอาผิดได้ โดยมีคลิปเสียงขนาด 1.86 GB ส่งมอบให้ตำรวจไปแล้ว
ด้าน 1 ในพนักงานก็ถูกเชิญตัวไป ก็ได้ให้สัมภาษณ์แบบเดียวกันว่า ทางตำรวจเคยไปค้นที่บริษัท 3 ครั้งแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่เคยถูกขอโทรศัพท์มือถือแบบนี้ ในระหว่างการตรวจค้นทางตำรวจให้วางโทรศัพท์ไว้และให้เปิดโหมดเครื่องบิน จากนั้นทางตำรวจก็ได้เรียกไปสอบที่ห้องหนึ่งใน บ. ก่อนจะเชิญตัวไปที่กองปราบ
จากนั้นก็สอบปากคำยาวนานตั้งแต่เที่ยงถึงสองทุ่ม ซึ่งตนทำงานที่บริษัทนี้มา 2 ปี รู้จักกับบอสพอลแต่ไม่สนิทกัน โดยตนมีหน้าที่ดูแลพนักงานในบริษัทประมาณ 80 คน ซึ่งตอนนี้บัญชีถูกอายัด ยังไม่รู้ว่าจะต้องเอาเงินตรงไหนมาเป็นค่าใช้จ่ายในบริษัท ในส่วนนี้ต้องให้ทางทนายดูแลต่อ