จากกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจค้นและยึดอายัดทรัพย์สินของ "บอสพอล" ที่ถูกนำมาซุกซ่อนในห้องเช่าภายในซอยรามอินทรา 9 สามารถตรวจยึดทรัพย์สินเป็นนาฬิกาหรู 19 เรือน ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตุว่านาฬิกาดังกล่าวเป้นของปลอมหรือไม่
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวที่โพสต์ลงเฟซบุ๊ก โดยให้สัมภาษณ์ว่า นาฬิกาหรูที่ทางดีเอสไอ ได้ยึดไว้นั้นมองยังไงก็เป็นของปลอม ปลอมแบบตาเปล่าดูรู้เลย ซึ่งเรื่องนี้มีนัยยะหลายเรื่อง
ทั้งนี้ นายไผ่ ลิกค์ มองว่าทำไม ”บอสพอล“ ต้องนำนาฬิกาไปเก็บไว้ที่นั้น หรือเป็นการเบี่ยงประเด็นว่าโดนยึดแล้ว ไม่ให้ตามทรัพย์สินที่เป็นนาฬิกาของจริงต่อหรือไม่ ซึ่งตนมองว่าวางแผนมาเป็นอย่างดี เรียกว่า โคนันยังร้องเลย โคนันอาย
นายไผ่ ลิกค์ ยังบอกอีกว่า คนที่คิดแผนแบบนี้ได้คือสุดยอดมาก มองว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงไปแจ้งดีเอสไอ จึงคิดว่าบอสพอลให้คนแจ้งเรื่องนี้เอง เพิ่อเบี่ยงประเด็นให้เป็นผลงานของดีเอสไอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานเดิมก็ทำตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ประชาชนก็เห็นถึงความชัดเจนของเรื่องนี้อยู่แล้ว ยอมรับว่าเรื่องนี้ยิ่งสืบค้นยิ่งซับซ้อน ซึ่งตนมองว่านาฬิกาที่ตรวจเจอเป็นของปลอมมองด้วยตาเปล่าก็ปลอม
“คือของปลอมแบบปลอมน่าเกลียด ปลอมแบบตาเปล่าดูรู้เลยว่ามันปลอม คือเรื่องนี้มีนัยยะหลายเรื่อง คือทำไมคุณต้องเอาเข้าไปไว้ที่นั่น อันนี้เราพอรู้ว่าเบี่ยงประเด็นว่าโดนยึดไปแล้ว ไม่ให้ตามทรัพย์สิน นาฬิกาต่อหรือเปล่า ต้องยอมรับว่าเขาคิดมาแบบ โห โคนันร้อง โคนันอาย มันซับซ้อนมาก คนที่คิดแบบนี้ได้มันสุดยอดมาก”
เพจดัง แฉคลิปเปิดตัว“บอสโปลิศ” ชีวิตดี๊ดีที่ The icon
สรุปอันดับตารางคะแนนยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจบนัด 3 ลีก เฟส
พายุโซนร้อน "จ่ามี” เคลื่อนเข้าทะเลจีนใต้-เตือนอีสานได้รับผลกระทบ!
นายไผ่ ลิกค์ ยังบอกว่าต้องขยายผลว่าของจริงไปอยู่ที่ใคร และมองว่าทำเป็นขบวนการแน่นอน เพื่อบิดเบือนหลายประเด็น ซึ่งเชื่อว่าตัวละครเดียวคือบอสพอลที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งหลายๆอย่าง มองว่าเขารู้กฎหมายและนั่งคิดมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายไผ่ ลิกค์ ยังแนะนำว่า 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องย้อนกลับไปมองว่าใครมาแจ้ง 2.ใครมาร่วมเล่นละครฉากนี้กันบ้าง แต่ก็เชื่อว่าตำรวจคงไม่ออกมาพูดทั้งหมดให้รู้ตอนนี้ เดี๋ยวอีกสักพักก็คงจะเปิดเผยแน่นอน เพราะช้างตายทั้งตัว ใบบัวปิดไม่มิดแน่นอน