จากกรณีนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนาย วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" ออกมาเปิดเผยว่า เตรียมแจ้งความกลับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีสร้างพยานเท็จแฉข้อมูลว่าบอสพอลเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตนั้น
ล่าสุดนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เปิดโต๊ะข่าว” ทางช่อง PPTVHD 36 ถึงกรณีดังกล่าวอย่างน่าสนใจ
โดยนายเอกภพ บอกว่า ตนมั่นใจ และไม่ได้กังวลอะไร เพราะทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ และมีหลักฐานทุกอย่างครบ ว่าขั้นตอนพยานคนนี้ติดต่อมายังไง แชตคุย โทรคุยอย่างไร มีเสียงโทรคุยด้วย ซึ่งก็เลยกลายเป็นหลักฐานสำคัญว่าสิ่งที่เขามาบอกกับเราคืออะไรบ้าง ตี่อให้วันนี้เขาจะเปลี่ยนคำพูด หรือจะเป็นพยานจริงพยานเท็จ แต่นั่นก็คือหลักบานที่ตนมีอยู่แล้ว ซึ่งตนไม่ได้ไปแสวงหาเขาแต่เขาติดต่อมาหาเรา
“ทนายตั้ม” แจงเงิน 10 ล้านเป็นค่าทนาย-ช่วยคดีจนจบ แต่ยังไม่พูดถึงปม บิ๊ก ตร.
วิเคราะห์บอล !! คาราบาว คัพ ไบรท์ตัน พบ ลิเวอร์พูล 30 ต.ค.67
“วันฮาโลวีน” เปิดประวัติทำไมถึงตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี
เมื่อถามว่าได้ไปเช็คหรือไม่ว่าเขาเป็นพยานจริงหรือปลอม นายเอกภพ บอกว่า แรกๆ ตนเชื่อว่าเขาอาจจะเชื่อโดยบริสุทธิ์ของเขาว่าเขาอาจจะเข้าใจอย่างนี้ มีข้อมูลอย่างนี้ แต่พอมาถึงเวลานี้ ตนก็มองว่าทำไมทำไมตพรวจออกมาพูดแปลกๆ ตนก็เลยพยายามเช็คว่าพยานคนนี้เวลาเขาไปให้การกัลตำรวจเขาพูดอะไร เขาพูดกับสิง่ที่ให้ข้อมูลกับตนหรือไม่ ซึ่งก็พยายามตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้อยู่ ซึ่งหากให้ข้อมูลไม่เหมือนกันตนก็จะดำเนินคดีกับเขา
เมื่อถามว่าหากการให้ข้อมูลไม่เหมือนกันเป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นการสร้างพยานเท็จมาใช้เล่นงานภายหลัง นายเอกภพ บอกว่า ก็อาจจะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ หากสิ่งที่พูดกับตนเป็นแบบหนึ่งแล้วไปพูดกับตำรวจอีกแบบหนึ่ง อาจจะเป็นหนอนหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เดี๋ยวต้องตรวจสอบก่อน แต่ตนยืนยันว่าหากพูดไม่ตรงกันตนดำเนินคดีแน่นอน เพราะตนมีหลักฐานทั้งหมด
ส่วนกรณีทนายบอสพอลขู่จะแจ้งความนั้น นายเอกภพ บอกว่า ก็เห็นเพียงแค่ตามข่าว เท่าที่ทราบยังไม่มีการแจ้งความ ซึ่งตนยังนึกไม่ออกว่าจะแจ้งความตนในฐานะอะไร หากบอกว่าตนเอาพยานเท็จมากล่าวหาให้เขาเสียหายนั้น ก็มีคนมาร้องที่ตน มาบอกว่าเขารู้เรื่องนี้ ตนก็เอาคนที่รู้ไปบอกเจ้าหน้าที่ แล้วกลับกันถ้ามีคนเอาข้อมูลมาให้ตนแล้วตนเก็บเงียบไม่บอกใครเลย ในภายภาคหน้าเกิดสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง และบอกว่าเคยบอกกับตนแล้วแต่ตนไม่บอกให้เจ้าหน้าที่ทราบ ตนไม่ซวยหรือ
ยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดมันเป็นสิ่งที่เราสื่อสารตามที่เขาบอกจริงๆ และผมบริสุทธิ์ใจ 100% ผมไม่รู้จักดิไอคอนไม่มีธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ไม่รู้จักบอสสักคนเดียว เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมจะไปสร้างพยานสร้างอะไร
ส่วนกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย บอกมาบอกว่าไม่ได้เป็นที่ปรึกษา รมว.มหาดไทยนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ นายเอกภพ บอกว่า ยืนยันว่าไม่เกี่ยวแน่นอน เพราะตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.มหาดไทยนั้น หมดวารพร้อมกับรัฐบาลเศรษฐาอยู่แล้ว พอหมดวาระตำแหน่งก็หมดไป ส่วนจะมีตนเป็นที่ปรึกษาชุดใหม่หรือไม่ ตนก็ยืนยันว่า ตนไม่น้อยใจ ไม่เสียใจอะไรทั้งนั้น และยืนยันว่าไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งตนก็ต้องช่วยเหลือประชนต่อไป เพราะทำมาก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว และเชื่อว่าผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยมองเจตนาเราออก ว่าตนตั้งใจช่วยเหลือคนและไม่มีเรื่องเงินทองมาเกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคไม่มีการมาตำหนิหรืออะไร
นายเอกภพ ยังบอกอีกว่า เรื่องเทวดาที่ตนเคยเปิดไปครั้งแรกและข้อมูลที่มีตัวอักษรย่อเทวดาต่างๆ ออกมานั้น ก็สอดคล้องกัน เป็นไปในทอศทางเดียวกัน ดดยเฉพาะในส่วนที่เป็นนักการเมืองก็สอดคล้องกัน ซึ่งตนก็มองว่าพยานคนนี้หากจะให้ข้อมูลเท็จทั้งหมดคงไม่ใช่ อาจจะมีข้อมูล แต่หากข้อมูลที่เขาบอกเรามา 100 แต่เรานำมาใช้ได้ 10-20 ก็ถือว่าโอเคแล้ว ซึ่งก็คงไม่ผิดทั้ง 100% แต่ก็ถือว่าสิ่งที่เขาบอกถ้าตรงไหนเป็นประโยชน์ก็เอาไปใช้ได้อันไหนไม่เป็นประโยชน์ก็ตัดออก