จากกรณีศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยแม่ ในฐานความผิดร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน เซ่นปมคดีดิไอคอนนั้น ส่งผลให้นายสามารถตกอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้ง
โดยนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ชื่อเล่นว่า “จ๊อบ” เกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2526 เริ่มมีชื่อเสียงจากการช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่หลายคดีจนได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ในปี 2557 นอกจากนั้นเขายังเคยเขียนหนังสือให้ความรู้เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่
หลังจากนั้นก็จนทำให้นายสามารถกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงสังคมจากการทำงานด้านนี้ และเป็นผู้ผลักดันให้แก้กฎหมายแชร์ลูกโซ่ เพิ่มโทษกับผู้กระทำความผิด จนทำให้กลายเป็นวาระชาติ
ต่อมาในปี 2562 นายสามารถ เข้าสู่เส้นทางการเมืองด้วยการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยได้รับบทบาท เป็นกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ, อนุกรรมการติดตามการหาเสียงพรรคพลังประชารัฐ และผู้อำนวยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร ที่นำโดยสมศักดิ์ เทพสุทิน และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่อยู่ในพรรคพลังประชารัฐในเวลานั้น
หลังการเลือกตั้งปี 2562 มีการตั้งคณะรัฐมนตรี โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติกรรม ซึ่งนายสามารถ ก็ได้รับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ซึ่งส่งผลทำให้เข้ากลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการออกมาให้ข่าว และแสดงความคิดเห็นในหลายประเด็น โดยหนึ่งในประเด็นที่ทำให้นายสามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ก็คือกรณีที่นายสามารถแสดงความคิดเห็นกรณีการชุมนุมของคนรุ่นใหม่ ที่กำลังจัดกิจกรรมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2563 โดยเขาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ทุกคนล้วนอยากช่วยประเทศ แต่ไม่มีใครอยากช่วยแม่ล้างจาน.." ซึ่งข้อความดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางไปทั่วสังคมออนไลน์
อย่างไรก็ตามนอกจากบทบาทของผู้ช่วยรัฐมนตรีฯแล้ว นายสามารถยังมีบทบาทเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ในกิจกรรมส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ เพื่อปลุกจิตสำนึกและสร้างความตระหนักรู้ เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่เรียกว่าแชร์ลูกโซ่ ให้ประชาชนสามารถปกป้องทรัพย์สินของตนเองจากการถูกหลอกลวงหรือฉ้อฉลไป
แต่ในปี 2564 เส้นทางการเมืองของนายสามารถก็ต้องสะดุดลง หลังจากมีข่าวว่า นายสามารถส่งคนสนิทไปเรียนและสอบแทนในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้พรรคพลังประชารัฐปลดเขาออกจากทุกตำแหน่ง และห้ามไม่ให้ใช้ตราเครื่องหมายพรรค
เกมแล้ว! อนุมัติหมายจับ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช " ดีเอสไอ บุกบ้านล็อกตัวแม่
นาโต-ยูเครน ประชุมด่วนหลังรัสเซียถล่มด้วยขีปนาวุธใหม่ในสงคราม!
“บิ๊กเต่า” เตรียมมอบ “กุญแจมือ”เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ-นักร้อง-คนดัง เอี่ยวคดีดิไอคอน
ก่อนที่ในปี 2566 นายสามารถ จะกลับมามีบทบาทอีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ในฐานะรองโฆษกรัฐบาล โดยเขากลายมาเป็นกระบอกเสียงสำคัญในประเด็นข่าวต่าง ๆ และทำงานใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จนได้ชื่อว่าเป็น “โทรโข่งประจำตัวบิ๊กป้อม” และยังมีผลงานใหญ่ล่าสุดอย่างการชักชวน นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.บางบอน พรรคเพื่อไทย ลูกชายของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เข้ามาอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ
แต่ในปี 2567 หลังจากเกิดกรณีดิไอคอนขึ้น ได้ปรากฎคลิปเสียงหนึ่งที่ถูกแฉในโลกออนไลน์ โดยระบุว่าเป็นคลิปเปสียงตบทรัพย์บอสดิไอคอน พร้อมกับปรากฎชื่อนักการเมือง ส. ซึ่งบอสดิไอคอนยืนยันว่าเป็นคลิปเสียงการสนทนากันจริง จนทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตุว่าเสียงของคนในคลิปคล้ายคลึงกับเสียงของนายสามารถ แต่นายสามารถก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่คลิปเสียงของตน แต่ หลังจากนั้นประเด็นคลิปเสียงตบทรัพย์ก็ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงมากยิ่งขึ้น จนพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นต้นสังกัดออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนนายสามารถ ต้องชิงลาออกจากสมาชิกพลังประชารัฐในที่สุด
กระทั่งล่าสุด ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมด้วยแม่ ในฐานความผิดร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน เซ่นปมคดีดิไอคอน โดยตำรวจควบคุมตัวนายสามารถได้แล้วที่จังหวัดเชียงราย