แต่ด้านของชาวประมง ที่อยู่บนเรือที่ประสบเหตุ ยืนยันว่า ไม่ได้รุกล้ำน่านน้ำเมียนมา เพราะตอนที่ถูกยิงใส่ ยังโทรหาที่บ้านอยู่เลย ถ้ารุกล้ำน่านน้ำจริงๆ จะไม่สาสามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ ส่วนรอบกระสุนที่พบ ไม่ใช่การยิงกราบเรือ แต่ยิงเข้าเก๋งเรือหลายจุด แถมยังเฉี่ยวหัวคนขับเรืออีกด้วย
ชาวประมงที่อยู่ในเรือลำเกิดเหตุ ยืนยันว่า ช่วงที่โดนเรือรบของเมียนยิง ยังไม่ได้รุกล้ำน่านน้ำของเมียนมา เพราะหากรุกล้ำน่านน้ำ จะไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ แต่ ตอนถูกยิง ยังโทรหาครอบครัว ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังสนั่นหวั่นไหว
ด้าน นายศรีเพชร บุตรทัด เจ้าของ มหาลาภธนวัฒน์ 4 ที่ประสบเหตุ ทหารเมียนมา ยิงใส่ เมื่อคืนวันที่ 29 พ.ย. ต่อเนื่อง วันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา จน ได้รับบาดเจ็บ มีกระสุนเฉี่ยวศรีษะ ซึ่งขณะนี้นำเรือลำเกิดเหตุพร้อมลูกเรือ เข้าจอดเทียบท่าและตรวจสอบความเสียหายที่ ท่าเรือคุระบุรี อ.คุระบุรี จ.พังงา พบว่ามีร่องรอยกระสุนปืนยิงเข้ามาบริเวณเก๋งเรือหลายจุด จากภาพจะเห็นว่า บริเวณกระจกเก๋งเรือมีรอบกระสุนหลายจุด รวมถึงเบาะที่นั่งคนขับเรือ, ประตูห้องโดยสาร, และมีรอยกระสุนที่ห้องคนขับเรือด้านด้วย รวมทั้งตู้เย็น ก็มีร้องรอยของกระสุนปืนหลายจุดเลย
“รัสเซีย-ยูเครน” เพิ่มงบกลาโหมสูงเป็นประวัติการณ์
“สามารถ” โดนอีกคดี ตร.จ่อแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ พบเส้นเงินรีดทรัพย์ผู้ประกอบการ 5 แสน
เขามองว่า ไม่ใช่เป็นการยิงข่มขู่ตามที่รัฐบาลอ้างถึง ส่วนภาครัฐแจ้งว่าเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำฝั่งเมียนมานั้น ขอชี้แจงว่า เรือประมงพาณิชย์ทุกลำถูกควบคุมโดยสัญญาณ VMH หากออกนอกเส้นทาง หรือ เข้าเขตเมียนมา แม้กระทั่งเขตอุทยานฯ สัญญาณจะแจ้งเตือน แต่ในคืนเกิดเหตุทางชาวประมงไม่พบว่ามีการแจ้งเตือนแต่อย่างใด
โดยเรือทหารเมียนมาพยายามล้อมเรือประมงไทยให้เข้าเขตน่านน้ำเมียนมาด้วยซ้ำ ขณะทางประมงไทยเกรงว่า ก่อนหน้านี้เคยมีลักษณะการล้อมจับเพื่อเรียกค่าไถ่ ในคืนเกิดเหตุจึงกลัวว่าจะถูกเรียกค่าไถ่จึงพยายามแล่นเรือเข้าฝั่งไทย
ด้านนายวรวุฒิ ชัยธนะวิวรรธ ตัวแทนพรรคประชาชน ประจำจังหวัดพังงา เข้าเยี่ยม นายศรีเพชร พร้อม บอกว่า ชาวประมงต้องการให้รัฐบาลไทย ตรวจสอบให้แน่ชัดและชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชาวไทยได้รับทราบ เรื่องนี้ตนเองจะเสนอให้ทางพรรคประชาชน นำเข้าสู่กรรมาธิการฝ่ายความมั่นคง ส่วนเรื่องที่รัฐบาลควรทำเร่งด่วน คือ เจรจาปล่อยตัวลูกเรือคนไทย 4 คน และแรงงานต่างด้าวอีก 27 คน เรือประมงอีก 1 ลำ .