นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจฯ รพ.วิชัยยุทธ เปิดเผยในรายการเปิดโต๊ะข่าว PPTV HD36 กรณี ฝุ่น PM 2.5 ที่ตนเคยออกมาโพสต์เตือนประชาชนให้อย่าตระหนกมากเกินไป โดยระบุว่า ฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้คนไทยอายุสั้น แต่เป็นปัจจัยเสริมที่อาจทำให้อาการของคนที่อ่อนแออยู่แล้วทรุดหนักลง
ฝุ่นนี้เกิดจากการเผาไหม้ที่มีมานานหลายร้อยปี เพียงแต่ในอดีตไม่มีเครื่องมือวัดที่ละเอียด ทำให้เราเพิ่งตื่นตัวในช่วงหลัง
นพ.มนูญ กล่าวว่า ค่ามาตรฐานฝุ่น PM 2.5 เท่ากับคนสูบบุหรี่ 1 มวนครึ่ง ถ้าอากาศแย่ลงขนาดนี้ เท่ากับสูบบุหรี่ประมาณ 3 มวนครึ่ง ในบุหรี่มีอันตรายเยอะกว่าถึง 4,000 เท่า สารเคมีอื่น ๆ อีก เราต้องกลัวบุหรี่มากกว่า PM 2.5 ไม่ใช่ว่าอากาศดี ถึงจะเป็นค่ามาตรฐานก็ตาม ก็เท่ากับสูบบุหรี่ 1 มวนครึ่ง ถือว่าไม่ปลอดภัย การจะเป็นโรคต้องแล้วแต่กรรมพันธุ์ของคน ๆ นั้น จะไปโทษทุกอย่างไม่ได้
ตนมองย้อนหลังไป 10 กว่าปี ว่าคนไข้เราไม่ได้มามากขึ้นในช่วงอากาศไม่ดี และดูจำนวนคนไข้ที่ตายช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาไม่พุ่งเลย ไม่เหมือนโควิดเพราะนั่นคือโรคใหม่ นี่คือโรคเก่าที่เรารู้สาเหตุอยู่แล้ว จากไขมัน อาหารเค็ม เบาหวาน ไม่ออกกำลังกาย เรารู้อยู่แล้ว การหายใจจากฝุ่นกว่าจะป่วยใช้เวลา 20 - 40 ปี ไม่ใช่หายใจวันนี้ พรุ่งนี้ป่วยตาย แค่ไปเสริมให้คนที่อ่อนแออยู่แล้วแย่ลง แต่ไม่ใช่ปัจจัยต้น
นพ.มนูญ กล่าวต่อว่า ตนกลัวคนตระหนกมากเกินจนเกิดความเข้าใจผิด คนไข้ตนมาจากอินโดนีเซีย ตนเคยถามว่ากลัวฝุ่นไหม เพราะที่นั่นค่าฝุ่นสูงกว่าบ้านเรา คนไข้ตอบ คนอินโดไม่สนใจเลย เขาอยู่กันแบบปกติ เพราะฉะนั้น เราตื่นตัวได้ แต่อย่าตระหนกเกินไป บางคนไม่กล้าออกจากบ้าน แต่ในบ้านกับนอกบ้านหากไม่มีเครื่องฟอกอากาศก็สูงเท่ากัน ให้เด็กไม่ไปเรียนหนังสือ แต่เด็กอยู่บ้าน ไม่มีเครื่องฟอกอากาศ ก็ค่าเท่ากัน ถ้าคุณจะทำอะไรให้คนไทย คุณต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศให้คนไทยทั้งประเทศ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้
ส่วนประเด็นให้ใช้รถสาธารณะฟรี นพ.มนูญ ให้ความเห็นว่า ไม่ช่วยหรอก เมื่อ 4 ปีที่แล้วเรากลัวโควิดกันมาก ๆ รถไม่วิ่งเลย โรงเรียนปิด การก่อสร้างหยุดทุกอย่าง แต่ค่าฝุ่นไม่ได้ลดเลย ตนถึงบอกว่า ต่อให้รัฐบาลทำขนาดนี้ อาทิตย์หน้าก็ยังไม่ลด เพราะมันเป็นฤดูของมัน เป็นธรรมชาติของมัน
เราก็ต้องพยายามอย่าเผาอะไรที่ไม่จำเป็น ไม่ใช่จะบอกว่าไม่ต้องกลัว แต่ไม่ต้องทำอะไร ไม่ใช่ ก็ต้องช่วยกันลดการเผา ลดการสูบบุหรี่ จุดธูป ดูแลรถอย่าให้มีควันดำ โดยเฉพาะเกษตรกรอยากให้ลดการเผาอะไรที่ไม่จำเป็น และตัวเราเองอย่าไปเผาธูป เผาเทียน กระดาษเงิน กระดาษทอง แค่นี้ก็ช่วยสังคมแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรณีเด็ก ๆ ที่เลือดกำเดาไหล หรือจามแล้วมีเลือดออกกันเยอะในช่วงนี้ นพ.มนูญ มองว่า เดี๋ยวนี้คนโทษฝุ่นหมดเลย อย่าลืมว่าแต่ก่อนมีโรคแพ้อากาศที่จะมีทั้งไรฝุ่น เกสรดอกไม้ เลือดกำเดามีหลายสาเหตุ เราไปโยนให้ฝุ่นทุกอย่างหมดเลย และช่วงนี้มันซ้ำซ้อนกัน ทั้งฤดูฝุ่น ฤดูหนาว โรคระบบทางเดินหายใจเยอะแยะไปหมด พออากาศหนาวเชื้อไวรัสต่าง ๆ ก็จะมาเพียบ และติดต่อกันง่าย ตนทำงานมา 30 ปี ทั้งไทยและนิวยอร์ก ซึ่งนิวยอร์กฝุ่นน้อยกว่าที่ไทย แต่ก็เป็นโรคทุกอย่างที่เมืองไทยมี
นพ.มนูญ ทิ้งท้ายว่า การตื่นตัวเรื่อง PM 2.5 เป็นเรื่องดี แต่ต้องไม่ถึงขั้นเครียดจนเกิดปัญหาสุขภาพจิต เช่น นอนไม่หลับ ไม่ออกกำลังกาย หรือไม่รับแสงแดด ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาขาดวิตามินดีและโรคกระดูกตามมา และย้ำว่า PM 2.5 ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้อายุสั้นแต่เป็นปัจจัยร่วม ต้องมีกรรมพันธุ์หรือโรคอื่น ๆ มาร่วมด้วย