จากกรณีรุ่นพี่มหาวิทยาลัยดังกลุ่มหนึ่ง ทำร้ายร่างกายรุ่นน้อง LGBTQ โดยการใช้น้ำซุปร้อนๆราดที่หัวและที่ตัวถึง3ครั้ง ตัดผมผู้เสียหายกลางร้านและบังคับให้ถอนวิชาเรียน พร้อมข่มขู่ให้นำเงินมาให้ 5 หมื่นบาท จนกลายเป็นประเด็นร้อน ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่กลุ่ม LGBTQ เดินทางมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก บุกคอนโดฯ ตามหารุ่นพี่แสบรายดังกล่าวเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ก่อเหตุออกมาแสดงตัวขอโทษต่อสังคม
โดยความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ นายเเอนดริว ผู้เสียหายที่ถูกรุ่นพี่สาดน้ำซุบใส่ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมเล่าว่าก่อนหน้านี้ตนไม่ได้มีปัญหาโดยตรงกับนายพีม เเต่นายพีมมีปัญหากับเพื่อนของตน ก่อนเกิดเหตุนายพีมบุกไปที่ห้องของเพื่อนตนแต่ไม่เจอตัว เพราะเพื่อนของตนไม่ยอมเปิดประตูให้ หลังจากนั้นนายพีมลงมาด้านล่างก็เห็นว่าตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านดังกล่าวพอดีและจำได้ว่าตนเป็นเพื่อนกับคู่กรณี นายพีมจึงเข้าไปพูดคุยด้วยและสอบถามเกี่ยวกับสตอรี่ที่ตนเคยโพสต์ไว้ในโซเชียล ซึ่งตอนแรกตนไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย แต่อยู่ๆ นายพีมก็เข้ามาตัดผมและทำร้ายร่างกายตน ถือชามไปตักน้ำซุบมาสาดใส่ตน และยังพยายามเดินเข้าครัวไปหยิบมีดด้วย แต่พนักงานของร้านไม่อนุญาตให้เข้าไป
ด้าน “กัน จอมพลัง” เปิดเผยว่าผู้เสียหายมีปัญหากับนายพีมเรื่องเงิน ซึ่งได้คืนเงินไปแล้วแต่เรื่องยังไม่จบ นายพีมได้พาผู้เสียหายไปขังไว้ในห้อง ระหว่างที่อยู่ในห้องผู้เสียหายถูกด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนจะถูกนายพีมใช้รองเท้าตบหน้า หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความเอาไว้แล้ว วันนี้จึงพามาให้ปากคำเพิ่มเติม
“กัน จอมพลัง” ยังบอกอีกว่าหลังก่อเหตุ นายพีมไม่มีท่าทีสลดและไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยังข่มขู่ให้ผู้เสียหายหยุดเรียนหนังสือ ซึ่งเรื่องนี้ถ้ามหาวิทยาลัยยังปัดความรับผิดชอบถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุเป็นนักศึกษาในสังกัด เรื่องมาถึงจุดนี้แล้วมหาวิทยาลัยยังจะให้นักศึกษาที่ก่อเหตุรุนแรงแบบนี้เรียนต่ออีกหรือไม่ ซึ่งตนเองได้ติดต่อไปที่กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ไปแล้ว เพื่อพาผู้เสียหายไปพบเลขาฯรัฐมนตรีให้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับเรื่องนี้อีกครั้ง และขอฝากถึงกลุ่มนักศึกษาที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มนายพีม สามารถติดต่อไปที่ทีมงานได้เลย ตนยินดีช่วยเหลือเต็มที่
ส่วนนายพีมเมื่อคืนนี้ไม่พบตัวอยู่ที่คอนโดฯ แต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้โพสต์ข้อความลงในอินสตราแกรมส่วนตัว ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมบอกว่าสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จริงๆ
ขณะที่ พันตำรวจเอกเกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่าล่าสุดศาลจังหวัดธัญบุรี ได้ออกหมายจับนายพีมและนายโอชิแล้ว ซึ่งทั้งสองคนปรากฏอยู่ในคลิป ทำร้ายร่างกายนางสาวแอน ที่ลานจอดรถข้างมหาวิทยาลัยดัง ทั้งสองคนถูกออกหมายจับใน 3 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันทำร้ายร่างกาย 2.กรรโชกทรัพย์ และ 3.ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ
ซึ่งหลังจากนั้น นายโอชิ เพื่อนของนายพีม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ได้ถูกตำรวจควบคุมตัวได้ที่บ้านพักในเขตกรุงเทพมหานคร และนำตัวเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยในจังหวะที่ตำรวจคุมตัวมาถึง นายโอชิใช้เสื้อกันหนาวปิดบังใบหน้าและไม่พูดอะไรกับสื่อมวลชน จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวไปที่ห้องสอบสวน ถูกตำรวจคุมตัวเข้ามาที่ สภ.คลองหลวง
จากนั้นตำรวจคุมตัวนายพีม ซึ่งควบคุมตัวได้ที่บ้านพักย่านคลองหลวง เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งจังหวะที่ตำรวจคุมตัวนายพีมเข้ามา สื่อมวลชนพยายามซักถาม แต่นายพีมไม่ตอบคำถามใดๆ โดยใช้มือปิดบังใบหน้าและสวมหน้ากากอนามัย
ขณะเดียวกันแม่ของนายแอนดริว ผู้เสียหายที่ถูกสาดน้ำซุบ ได้เดินทางมาที่ สน.คลองหลวง ด้วย ได้เข้าไปถามนายพีมว่า “ทำแบบนี้กับลูกของแม่ทำไม” “สำนึกผิดบ้างไหม” ซึ่งแม่ของแอนดริวได้ถามและร้องไห้ไปด้วย นายพีมก็ได้เงยหน้าตนเองมามองหน้าแม่ของแอนดริวด้วย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นตำรวจได้คุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องสอบสวน ซึ่งแม่ของแอนดริวได้ปลีกตัวออกมา สวมกอดญาติและร้องไห้ และเดินทางกลับบ้านทันที
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตำรวจคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรีในวันพรุ่งนี้