ทีมข่าว PPTV ยังคงตามต่อกรณีของขบวนการทุจริตขนคนไข้ไปใช้สิทธิรับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ก่อนนำยาดังกล่าวออกไปจำหน่าย ซึ่งหลังจากนำเสนอเรื่องนี้ทีมข่าว PPTV ได้คุยกับแหล่งข่าวที่เคยแฝงตัวไปเป็นคนไข้เข้าไปร่วมกับขบวนการนี้ โดยเรื่องนี้ได้รับความร่วมมือจากบุคคลที่เคยอยู่ในขบวนการซึ่งมองว่าไม่อยากจะทำต่อแล้ว จึงทำให้เรารู้กระบวนการ ตั้งแต่นัดพบ รับเงิน จนถึงเอายาไปเก็บ
โดยขบวนการดังกล่าว จะมีคนที่ทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์ ที่น่าสนใจคือมีการแจ้งกันในลักษณะว่ามียาล็อตใหม่เข้ามา จากนั้นให้ไปรวบรวมคนในครอบครัวทหารหรือกำลังพล ในจังหวัดลพบุรีว่ามาเป็นคนไข้ เพื่อใช้สิทธิ์สวัสดิการ ซึ่งเอเย่นต์นัดให้ไปขึ้นตู้ ตั้งแต่เช้ามืดเมื่อไปถึง โรงพยาบาลทหารผ่านศึก เอเย่นต์จะบรีฟอาการป่วยให้ว่าจะต้องพูดกับหมอยังไง โดยจะมี 3 ประเภท คนป่วยอยู่แล้วแทบไม่ต้องเตรียมข้อมูลอะไร ส่วนคนที่ป่วยไม่มาก ให้บอกอาการป่วยเยอะที่สุด ขณะที่คนที่ไม่ป่วยอะไรเลย ต้องสร้างเรื่องเกือบ 100%
จากนั้นคนไข้ก็จะลงไปรับคิว แล้วแยกย้ายขึ้นไปคุณหมอ และที่น่าสังเกตอีกจุดคือกลุ่มคนเหล่านี้จะพบหมอคนเดียวกันหมด ซึ่งเป็น “แพทย์หญิง ตัวย่อ บ. และพบว่ามีชื่ออยู่ในบอร์ดบริหารด้วย“ ทั้งนี้หลังจากรับยา ซึ่งส่วนใหญ่ จะได้ยาเป็น ราย 3 เดือน บางคนได้เยอะถึงขั้นเอากระสอบผ้าไปขนก็มี
“สิ่งที่เราเห็นก็คือ เขานำถุงกระสอบเหมือนกระสอบที่เอาไว้ใส่เสื้อผ้าเดินทางไกลๆ ขนาดใหญ่มาเลยแล้วก็กลางออกมาแล้วฝ่ายของกองเภสัชก็จะส่งยาออกมาเป็นปึกๆ แล้วก็ใส่เต็มถุงซึ่งเราก็ตกใจมากว่าคนคนนึงป่วยอะไรขนาดนั้น หรือว่าเขารับแทนกันคือพี่เขาบอกว่าก็มีกรณีรับแทนด้วยเหมือนกัน ให้คนเดียวจ้างคนเดียวแล้วก็ให้คนที่เป็นเอเย่นต์มารับเอง และยังมีขบวนการอื่นแฝงตัวเข้ามาทำเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่เขาจะไม่ทักทายอะไรกันเลยรู้จักกันปกติ”แหล่งข่าวระบุ
นอกจากนั้น แหล่งข่าว ยังบอกอีกว่า เขาได้มีโอกาสคุยกับคนในกลุ่มที่ไปด้วยกัน จนพบว่ามีกลุ่มคนที่ทำเป็นขบวนการลักษณะเดียวกัน แต่เป็นอีกพวกหนึ่ง ซึ่งหลังรับยาเสร็จ ทุกคนก็จะขึ้นรถตู้เอเย่นต์จะพาไปรับเงินที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง รับค่าจ้างแลกกับยา ประมาณ 10% จากยอดใบเสร็จรับยาจริง
อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องดังกล่าวกลายเป็นข่าวขึ้นมา องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก มีหารชี้แจงว่าไม่มีแพทย์ในโรงพยาบาลเกี่ยวข้อง ขณะที่ นายภูมิ ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม. พรรคประชาชน รองประธาน กมธ. ทหาร ก็ได้โพสต์ภาพที่เป็นลักษณะของการถ่ายหน้าจอ คอมพิวเตอร์ข้อมูลคนไข้จากโรงพยาบาล ส่งเข้าไปในกลุ่ม LINE ที่ใช้ติดต่อ กับคนไข้ปลอม
โดยระบุว่า “ ขบวนการนี้ไม่เล็ก ทำมาเป็นปีๆ มีแกนนำ เป็นพันเอกหญิง ปัจจุบันเป็น ข้าราชการบำนาญ มีเครือข่าย แม่ทีม ลูกทีม และแน่นอน เรื่องแบบนี้ ทำคนเดียวไม่ได้ และเป็นไปไม่ได้ที่คนในจะไม่ร่วมขบวนการ ผมคงต้องฝากตรวจสอบ พญ. บ. ด้วย ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ คนนอกแบบไหน ที่จะสามารถถ่ายหน้าจอ คอมพิวเตอร์ โรงพยาบาล เยี่ยงนี้ได้”
ซึ่งต่อมา ทีมข่าว PPTV ได้หลักฐานเพิ่มเติม ปรากฏสลิปว่า คนที่โอนเงินมาให้กับเอเย่นต์ เป็นข้าราชการทหารยศ “พันเอกหญิง ตัวย่อ ก.“ จากนั้นปรากฏว่ามีการเอายาไปเก็บที่ร้านซักรีดใต้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซึ่งแหล่งข่าวยืนยันว่าด้านในมีถุงย่อย ลักษณะเดียวกับที่เขาและ คนไข้ปลอมคนอื่นไปรับยาอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้สำหรับยาที่รับมาแหล่งข่าว ที่แฝงตัวเข้าไป บอกว่าส่วนใหญ่ เป็นยารักษาโรคกลุ่ม NCDs หรือโรคร้ายเรื้อรัง เช่น โรคความดัน เบาหวาน ที่มีราคาสูง
อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ ทีมข่าว PPTV ติดต่อไปที่ตัวของ “พันเอกหญิง ก.” หลังจากที่มีข่าวออกไปแล้ว เจ้าตัวรับสาย และให้ข้อมูลกับเราสั้นๆ ว่า “ยอมรับว่าตัวเองเป็นข้าราชการทหารเป็นพยาบาล แต่ไม่ได้ทำงานนานแล้ว และไม่ได้ทำงานในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ไม่รู้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น” จากนั้นบอกกับทีมข่าวเราว่า ขอปรึกษากับคนที่ไว้ใจก่อนแล้วจะชี้แจงให้ฟังอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย
ต่อมาปรากฏว่าเราได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวปรากฏว่า “พันเอกหญิง ก.” คนนี้ได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่บุคคลที่เคยเข้ามา รับยาบอก ทำนองว่า เรื่องนี้กลายเป็นข่าวไปแล้ว และพยายามสอนให้ลบหลักฐานทั้งหมด
ส่วนอีกคลิปพูดทำนองว่าถ้ามีการตรวจสอบขึ้นมาจะทำ จะตอบคำถามที่มีการเขียนเรื่องของการมาใช้สิทธิครั้งแรกได้รับเงิน 1,000 บาทอย่างไร แล้วยังบอกว่า ไม่ว่าจะถูกถามอะไรก็ให้บอกว่าไม่รู้ โทรศัพท์ไม่มีแล้ว ให้ตอบไปว่ามากันเอง