วันที่ 13 ก.พ. 2568 พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้ (12 ก.พ.) ตำรวจ สภ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ควบคุมตัวคนไทย 9 คน ที่โทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า ถูกตามทำร้ายร่างกายจากแก็งคอลเซ็นเตอร์ และหลบหนีมาจากเมืองโอร์เสม็ด ประเทศกัมพูชา หลังถูกกวาดล้าง จึงหลบหนีออกมา ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบและขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ระบุว่า เมืองโอร์เสม็ด ประเทศกัมพูชา อยู่ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เมื่อปีที่ผ่านมา พบว่ามีการปรับสภาพพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้างอาคารที่พักขนาดใหญ่ ซึ่งกองกำลังสุรนารีเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหว การเข้ามาของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีการคุมเข้มเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดน รวมถึงการปรับเสาสัญญาณโทรคมนาคม เพื่อควบคุมไม่ให้นำไปใช้ในการก่ออาชญากรรม
โดยที่ผ่านมาพบข้อมูลแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่มาตั้งฐานประชิดชายแดนกว่า 1 พันคน และเมื่อปีที่ผ่านมา กองกำลังสุรนารีได้เข้าช่วยเหลือคนไทย และชาวต่างชาติที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ช่องจอม จากฝั่งประเทศกัมพูชา จำนวน 13 ครั้ง ช่วยเหลือได้ 37 ราย เป็นคนไทย 35 ราย และเวียดนาม 2 ราย
ล่าสุด พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ หลังมีคนไทยซึ่งซึ่งสมัครใจไปทำงานยังฝั่งโอร์เสม็ด จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ได้หลบหนีเข้ามายังฝั่งไทยก่อนขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.กาบเชิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลต่อไป
ทั้งนี้เตรียมนำเรื่องเสนอสภาความมั่นคง หากเครือข่ายมีการเบี่ยงเบน แหล่งมายังบริเวณฝั่งโอร์เสม็ด ต้องมีการคิกออฟพร้อมกันในการ ตัด ไฟ น้ำและสัญญาณทุกชนิด