รมว.ยุติธรรม ยันไม่ปล่อยไว้แน่! กลุ่มอิทธิพล เอี่ยวนอมินีบริษัทจีน โยงตึกสตง. ถล่ม

โดย PPTV Online

เผยแพร่

รมว.ยุติธรรม ยันไม่ปล่อยไว้แน่! กลุ่มอิทธิพล เอี่ยวนอมินีบริษัทจีน โยงตึกสตง.แห่งใหม่ถล่ม แจ้งตม. สกัดเข้า-ออกประเทศ

วันที่ 4 เม.ย.2568 ที่รัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวภายหลังการประชุมนัดแรกของคณะพนักงานสอบสวนประชุมคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีความผิดจากตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวว่า ยืนยันหากมีหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหาสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ เว้นแต่ก่อนกรณีรับเป็นคดีพิเศษ เมื่อรู้ที่อยู่ก็มีการติดตาม โดยเมื่อเช้าได้แจ้งว่าจะต้องประสานงานด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทางเข้าออกประเทศด้วย

คอนเทนต์แนะนำ
ดีเอสไอ รับกรณีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษแล้ว หลังมีหลักฐานนอมินี
กมธ.ป.ป.ช. จ่อเชิญ “ผู้ว่าฯ สตง.” ชี้แจงเหตุตึกถล่ม

แผ่นดินไหว สตริงเกอร์ กทม.
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

“หน้าที่ของพนักงานสอบสวนนอกจากแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน พิสูจน์ความบริสุทธิ์และความผิดแล้ว อีกหน้าที่สำคัญคือการนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องลงโทษ ในเรื่องนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษเวลาจะทำเรื่อง ดูทุกเรื่อง เพราะเรามีสำนักสืบสวนสะกดรออยู่” รมว.ยุติธรรม กล่าว

พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับบริษัทนอมินีจีนว่า รัฐบาลนี้โดยเฉพาะในกระทรวงยุติธรรม นอกจากจะแก้ปัญหาอาชญากรรมยาเสพติดแล้ว ยังจะดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะกฎหมายสอบสวนคดีพิเศษ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับผู้ส่งอิทธิพลต้องทำอยู่แล้ว ต้องใช้กฎหมายดำเนินการ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ถ้าพยานหลักฐานไปถึงก็ดำเนินการได้ ซึ่งเมื่อเช้ายังได้รับฟังข้อมูลของพนักงานสอบสวน ตามที่เสนอก็มีความรอบคอบ ชี้คดีนี้เป็นคดีที่มีความสูญเสียเยอะ การดำเนินคดีต้องดำเนินการโดยเร็วบนข้อมูลพยานหลักฐานที่รอบคอบ

พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวว่าขณะนี้ขอทำคดีในส่วนของสาเหตุตึก สตง. ถล่มก่อน ส่วนในประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องหรือการตรวจสอบโครงการของรัฐที่มีสัญญากับบริษัทสัญชาติจีนต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ซึ่งได้มีการสอบถามเกี่ยวกับหลักฐานทางทะเบียน กรณีกิจการร่วมค้าปรากฏว่ากระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าไม่ได้รับผิดชอบทะเบียนซึ่งรับผิดชอบเฉพาะ บริษัทนิติบุคคลตามกฏหมายแพ่ง ทำให้ข้อมูลจึงไปอยู่ที่กระทรวงการคลัง แต่กระทรวงการคลังไม่ได้ทำทะเบียนไว้ จึงต้องไปไล่ตาม สรรพากรต่างๆที่มีการเสียภาษี โดยเห็นว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องมีผู้มารับผิดชอบอาจเพิ่มภาระงานให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาร่วมดูด้วย

“อย่างน้อยเป็น 2 บริษัท หรือ 3 บริษัทเข้ามา ซึ่งบริษัทต่างด้าวกระทรวงพาณิชย์ ก็ดูอยู่แล้ว ประการสำคัญเมื่ออ่านสัญญาบางครั้งอาจมีช่องว่าง ซึ่งประเทศไทยมีกฎหมายดีเยอะ แต่เวลาใช้เหมือนเป็นส่วนๆ ขาดการบูรณาการ เท่าที่ควรเหมือนอานานิคมของกฎหมายหน่วยใดหน่วยหนึ่ง จึงบอกดีเอสไอ ต้องประสานงาน แม้แต่เรื่องการบังคับใช้กฎหมายเรื่องเข้าสู่เนื้องาน เช่น พยานหลักฐานควรต้องเก็บอย่างไร ควบคู่กับการช่วยเหลือชีวิตก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่หากปล่อยให้วัตถุพยานถล่มลงไปก็จะไม่มีภาพและวัตถุพยานไปยืนยันในชั้นศาล จึงขอให้ไปประสานงาน ให้เก็บภาพและวัตถุพยานให้มากที่สุด ทำให้พนักงานสอบสวนต้องประสานกับนิติวิทยาศาสตร์ และประสานกับวิศวกร และขอความกรุณาผู้ช่วยชีวิตช่วยบันทึกภาพเก็บไว้ด้วย” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีที่บริษัท ของจีน ได้โครงการสัมปทานของรัฐหลายโครงการจะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า มีหน่วยงานที่รับผิดชอบและกระทรวงยุติธรรมจะนำข้อมูลที่มีอยู่ไปให้ เช่นเรื่องกิจการร่วมค้า29 โครงการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ส่วนดีเอสไอ จะโฟกัสเฉพาะกรณีที่รับผิดชอบก่อน ส่วนกรณีอื่นจะต้องส่งให้ภาครัฐไปพิจารณา เพราะหากทำคดีใดก็ต้องทำเป็นคดีคดีไป

Bottom-AllStar Bottom-AllStar

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ