เมื่อวันที่ 7 เม.ย.68 นายสุทธิเกียรติ โสภณิก ผู้อำนวยองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ K9 USAR THAILAND กล่าวภายหลังยุติภารกิจของทีม K9 ว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจาก USAR ประเทศไทย ให้ร่วมปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันเกิดเหตุ 28 มีนาคม จนถึงปัจจุบัน ประมาณ 10 วัน ตามข้อกำหนดของ USAR ต้องปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 7-10 วัน ซึ่งขณะนี้ครบกำหนดแล้ว หากปฏิบัติบัติภาคกิจต่อ ทีม K9 และ เจ้าหน้าที่จะได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บได้
จึงเห็นว่าควรที่จะยุติการค้นหาของทีม K9 และส่งมอบภารกิจการค้นหาให้กับทีมที่มีหน้าที่ในการรับผิดชอบต่อ
นายสุทธิเกียรติ กล่าวว่า ภารกิจในลักษณะนี้เป็นงานประจำของ USAR ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือต่างประเทศ ทีม USAR จะปฏิบัติภารกิจ ประมาณถึง 10 วัน เพราะทีม USAR ไม่ได้ทำงานตลอดไป รวมถึงไม่ได้ทำงานเก็บกวาด แต่จะทำงานในภารกิจเร่งด่วน เฉพาะการค้นหาและการกู้ภัย โดยให้ความสำคัญกับผู้รอดชีวิตเป็นหลัก ซึ่งการปฏิบัติงานภายในอาคารสตง.ถล่มแห่งนี้ เป็นการปฏิบัติงานมา 10 วันแล้ว ซึ่งกำลังพลและสุนัข K9 ทำอย่างเต็มที่แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องยุติหน้าที่ เพราะหากทำภารกิจต่อไปอาจจะเกิดอันตรายต่อสุนัข และกำลังพลก็เริ่มอ่อนล้า
"ขั้นตอนสุดท้าย เป็นเรื่องของการรื้อถอน ซึ่งความหวัง ผู้ประสบภัยเริ่มเหลือน้อย ดังนั้นการกู้ภัยจึงจำเป็นจะต้องใช้เครื่องจักรใหญ่และการใช้เครื่องมือเล็กอย่างค้อนทุบคงไม่เกิดประโยชน์ จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานหลักที่เป็นเจ้าของพื้นที่ และทีม USAR ก็จะส่งมอบภารกิจให้กับหน่วยงานหลักในพื้นที่รับผิดชอบ"
การปฏิบัติภารกิจของทีม USAR เราเคยปฏิบัติงานในอุโมงค์ถล่มที่ จ.นครราชสีมา เมื่อครบกำหนด 10 วันก็จะต้องถอนกำลังออกมา เมื่อพบร่างผู้ประสบภัย สามารถยืนยันตำแหน่ง ก็ต้องส่งมอบพื้นที่ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดู ส่วนการส่งมอบภารกิจทางทีม K9 ได้แจ้งกับทางหัวหน้าชุด USAR ไทยแลนด์ โดยมีกระทรวงมหาดไทย เป็นหัวหน้าและเป็นการถอนกำลังเป็นภารกิจปกติของทีมไม่ได้เกิดจากกระแสที่เกิดขึ้นทางโซเชียล
“ผมคิดว่าทุกคนก็คงเรียนรู้ไปด้วยกัน แฟนคลับหรือใครก็แล้วแต่ เราได้คำนึงถึงความปลอดภัยของK9 ทุกตัวอยู่แล้ว เราได้หาทางเลือกที่ดีที่สุดปลอดภัยที่สุด และหาทีมที่มีความพร้อมที่สุดมาปฏิบัติงานในแต่ละภารกิจ จึงขอให้ท่านสบายใจสำหรับการสนับสนุนที่ผ่านมาได้นำมาใช้อย่างเป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในขณะนี้และในอนาคต”
สำหรับกระแสโซเชียลที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้ติดตาม และไม่ได้สนใจ ซึ่งบางเรื่องก็ไม่ได้มีพื้นฐานของความเป็นจริง คนที่อ่านอาจจะเกิดความไม่สบายใจ แต่ในความเป็นจริงยืนยันว่า ไม่ได้มีความคิดที่จะนำทีมไปเสี่ยงขนาดนั้น ซึ่งทีมก็ทำงานตาม ที่ควรจะเป็นและคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเราทำมาไม่รู้กี่งานแล้ว และทำอย่างมืออาชีพ และเราไม่ได้ทำเพื่อต้องการที่จะออกสื่อ แต่ทำเพื่อช่วยชีวิตคน และคำนึงถึงกำลังพลของเราเป็นหลัก และขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง แต่เราจะใช้ความรู้ทุกอย่าง และประสบการณ์ที่มีเข้ามาช่วยให้ทุกฝ่ายสบายใจและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ยอมรับว่าหากรู้จักหน้างาน ภารกิจในครั้งนี้มีความยาก และอันตราย โดยเฉพาะพื้นที่มีทั้งเศษแก้ว เศษปูน ตะปู หากไม่มีกำลังใจ 3-4 วัน คงต้องถอนแล้ว แต่พอมีกำลังใจเข้ามาเราก็ไหว ส่วน สุนัข K9 ไม่ป่วยไม่บาดเจ็บ และการที่เราฝึกหนักก็ทำให้ สุนัขสามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์เช่นนี้ได้ เพราะถ้าหากไม่ได้ฝึกอุ้งเท้าของสุนัขคงได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย แต่เมื่อได้ฝึกหนักก็ทำให้อุ้งเท้าของสุนัขมีความหนาขึ้น สามารถที่จะทนกับสภาพพื้น และเคลื่อนย้ายน้ำหนักเมื่อมีเศษแก้วเศษปูนได้เป็นอย่างดี
ส่วนที่หลายคนกังวลว่าหากสุนัขไม่ใส่รองเท้าอาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บ นายสุทธิเกียรติ ระบุว่าสุนัขก็มีวิธีการเดินของเขาตามธรรมชาติ “ก็ขอบคุณที่ทุกคนเป็นห่วง แต่เรารู้จักสุนัขของเราเป็นอย่างดี เรารู้วิธีที่จะทำงานกับเขา และผลที่ท่านเห็นก็คือสุนัขของเราไม่มีบาดเจ็บและไม่มีเจ็บป่วย” หลังจากนี้จะกลับไปพัก และจะมีภารกิจ และเรื่องเกี่ยวกับการค้นหา ผู้สูญหายซึ่งในประเทศไทยยังมีอีกหลายกรณี ทั้งนี้หากเป็นคดียาเสพติดหรือคดีอาชญากรรม ขออย่ามาเรียกทีมของตนเองไปเลย แต่หากเป็นการช่วยเรื่องของคนหาย ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ