วันนี้ 18 เม.ย. 2568 ทีมงานมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ พาครอบครัวผู้เสียหาย นายพีช ลูกชายนักการเมืองดังที่ จ.ปทุมธานี ขับรถหรูบีเอ็มดับเบิ้ลยู ปาดเบียดรถกระบะสีดำ เป็นเหตุให้เสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ลุงกับป้าที่เป็นผู้ขับและผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัส เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณี เบื้องต้นต้องการแจ้งในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ก่อน และจะให้ตำรวจพิจารณาคดีอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
ด้านน.ส.แสงอรุณ หาญเหมย ลูกสาวของผู้เสียหาย ยืนยันว่า หลังจากวันเกิดเหตุ นายพีช คู่กรณีไม่ได้มีการติดต่อมาพูดคุยกับทางครอบครัวเลย แต่เขากลับโทรไปคุยกับทางแต่ทางพลเมืองดีเพื่อให้พี่เขาลบคลิปเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้น และส่วนที่บอกว่ามีการตกลงกับทางครอบครัวแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีการตกลงกันแต่อย่างใด เพราะวันเกิดเหตุได้เจอกับนายพีช ที่โรงพักตำรวจทางหลวง เขาก็แจ้งแค่ว่าคุณพ่อคุณแม่เราเป็นฝ่ายผิดเพราะขับรถเบียดเขาก่อน
ซึ่งตอนนั้นก็ได้ให้เบอร์ติดต่อเขาไปแล้ว แต่เขากลับเลือกที่จะไม่โทรหาตัวเอง จนกระทั่งไปออกรายการก่อน โดยไม่มีความชัดเจนกับเราเลยว่าการเยียวยาหรือว่าการดูแลทางพ่อแม่ที่ได้รับบาดเจ็บจะดำเนินการอย่างไร จึงทำให้ทางครอบครัวไม่มีความสบายใจเรื่องนี้อย่างมาก
ส่วนเมื่อวานที่นายกฯเบี้ยวได้ไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่โรงพยาบาล ได้เจอกับลูกชายของผู้เสียหายซึ่งตอนนั้นเขาก็พูดดีว่าจะรับผิดชอบแม้ว่าจะผิดหรือถูกและได้ถามอาการคุณแม่กับคุณพ่อ
สำหรับอาการของคุณพ่อยังอยู่ในห้องไอซียูยังหายใจด้วยตัวเองไม่ได้ ส่วนคุณแม่มีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ส่วนการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ ส่วนตัวคิดว่าเขาก็คงต้องพูดให้เป็นประโยชน์ต่อเขาอยู่แล้ว และอยากตั้งคำถามว่าไม่ใช่เป็นเพราะการนำเสนอข่าวและกระแสสังคมทำให้เขาออกมาขอโทษหรือไม่
ขณะที่ประเด็นนายพีช อ้างว่าเป็นหลาน ผบ.ต่ายนั้น น.ส.แสงอรุณ ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุที่ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจทางหลวง นายพีชได้มีการพูดบอกว่าผมก็มีอาเป็นตำรวจ คือ ผบ.ต่าย จริง ซึ่งแม้ว่าทางตำรวจก็ได้ยิน ซึ่งทำให้ตำรวจที่โรงพักพูดว่าแม้อาเป็นตำรวจ หรือ ผบ.อะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งตำรวจก็ยืนยันดำเนินคดีตามขั้นตอน
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดส่วนตัวคิดว่าวันนี้ที่เค้าออกมาแก้ตัวเหมือนก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีความจริงใจ และการที่ออกมาขอโทษ เราก็ไม่สามารถเชื่อได้ว่ามีความจริงใจทั้งหมดหรือไม่
น.ส.แสงอรุณ ย้ำว่า ตอนนี้เราต้องดำเนินคดีถึงที่สุดไม่มีอะไรมาลดทอนความตั้งใจของครอบครัวได้ เพราะยังไม่ได้เห็นความตั้งใจของคู่กรณีจะเข้ามาพูดคุยกับทางครอบครัวเลย ซึ่งถ้าเขาจริงใจและมาพูดคุยกันตั้งแต่วันแรกมันก็น่าจะไม่มีประเด็นแบบนี้เกิดขึ้น