วันที่ 20 เม.ย. 2568 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ไปเยี่ยมลุงและป้าที่ถูก นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช ลูกชาย นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว ขับรถชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
กัน จอมพลัง เปิดเผยว่าตนมาเยี่ยมคุณลุง คุณป้า ทุกวันอยู่แล้วเพราะทั้งสองคนยังเจ็บอยู่ ส่วนคุณลุงก็ยังอยู่ในห้องไอซียู และเมื่อคืนนี้ก็มีโอกาสคุยกับครอบครัวคุณลุง คุณป้า เรื่องค่ารักษาพยาบาล ซึ่งตนรู้สึกสงสารเพราะตอนนี้ค่ารักษาพุ่งไปกว่า 130,000 บาท แล้ว
ซึ่งฝั่งคู่กรณียังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้อย่างชัดเจนว่าจะจ่ายส่วนไหนยังไงบ้าง จนญาติบอกว่าจะไปกู้เงินมาจ่าย ตนจึงใช้เงินส่วนตัวและเงินจากมูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้ จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลุงกับป้าไปก่อน
และวันนี้ทราบมาว่านายพีช นำเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลุงกับป้า ตนจึงฝากถึงคู่กรณีว่าเงินส่วนนี้ถ้าอยากจะคืนให้ ตนก็ยินดี และอยากให้แสดงถึงความรับผิดชอบว่าจะรับผิดชอบส่วนไหน ยังไงบ้าง ซึ่งเมื่อวานนี้เฮียเบี้ยวและนายพีชยังพูดไม่ตรงกัน อยากให้ไปคุยกันก่อนเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อแสดงความจริงใจ และหากมีการพูดคุยกันกับครอบครัวลุงกับป้าก็น่าจะดีขึ้น
ส่วนเรื่องรถลุงกับป้า กัน จอมพลัง บอกว่าควรรีบเข้ามาดำเนินการ เพราะตอนนี้บริษัทประกันยังไม่ติดต่อเข้ามา แต่ถ้าเป็นตน ตนจะซื้อรถใหม่ให้ลุงกับป้า
สำหรับประเด็นที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กให้ กัน จอมพลัง ถอยจากเรื่องนี้ เพราะพี่ชายสั่ง กัน จอมพลัง บอกว่า ตนคุยกับพี่ชายทุกวัน เชื่อว่าพี่ชายรู้จักนิสัยตนเองดีและรู้ว่าตนเป็นคนยังไง ตนเป็นคนที่มาเพื่อเคสจริง ๆ ซึ่งพี่ชายบอกว่าให้หาทางออกร่วมกัน ตนก็พยายามถอยออกมาคนละก้าวแล้วเพื่อเปิดช่องให้คู่กรณีได้แสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจและเป็นรูปธรรม เพราะก่อนหน้านี้เห็นแค่คำพูดอย่างเดียวและยังพูดในลักษณะอย่าปากแจ๋ว และตนก็ต้องขอบคุณนายมงคลกิตติ์ที่ออกมาพูด ถ้าคิดในแง่ดีอาจจะเป็นห่วง แต่อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ให้นายมงคลกิตติ์ดูแลโซนพระราม 7 ได้เลย ทางนี้ต้นจัดการเอง
ส่วนกรณี สป.สายไหม ที่โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึงตน มองว่าเป็นแค่เด็กน้อย คนละเบอร์กัน ตนไม่ได้สนใจ เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตอนนี้สังคมได้เข้าไปตอบคอมเม้นต์แทนหมดแล้ว และวันนี้ก็อยากโฟกัสที่เคสและฝั่งคู่กรณีว่าจะมาเยียวยาหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานตนก็เจอกับเฮียเบี้ยว ก็ถือว่าผู้ใหญ่คุยกัน ส่วนเด็กน้อย ไม่ใช่เวทีของเขา พร้อมเล่านิทานเรื่องหนึ่งว่า
“เมื่อหลายปีก่อนตนประสานตำรวจ สภ.ลำลูกกา ให้เข้าไปจับบ่อนในพื้นที่ ตำรวจใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็เข้าไปดำเนินการให้ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันมีผู้ใหญ่คนหนึ่งพาหมาน้อยมาร้องไห้ มุแง มุแง ขอเคลียร์และขออนุญาตเปิดบ่อน ซึ่งตนไม่รับและไล่กลับไป หากครั้งนี้ถ้าต้นจะสวนกลับอีกก็อย่าร้องไห้เหมือนครั้งแรกอีก”
ด้านลูกชายลุงและป้าไม่ได้เรียกร้องให้ซื้อรถคันใหม่ให้ แต่จะรอดูความรับผิดชอบจากคู่กรณี