ชื่อของ "เนตร นาคสุข" กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังจากวันที่ 22 เม.ย. 2568 เวลา 08.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาสั่งจำคุก 3 ปี นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด และนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส สั่งจำคุก 2 ปี กรณีกระทำผิดเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานในคดี คำให้การพยาน ความเร็วรถยนต์ เพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ที่ขับรถเฉี่ยวชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. 2555
สำหรับนายเนตร นาคสุข สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับสองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเนติบัณฑิตไทย เคยดำรงตำแหน่งงานสำคัญ อาทิ อัยการจังหวัดน่าน อัยการจังหวัดพิจิตร รองอธิบดีอัยการภาค 6 อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองเชียงใหม่ ต่อมาขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูง ก่อนก้าวขึ้นมารับตำแหน่งรองอัยการสูงสุด
โดยนายเนตร นาคสุข ถูกพูดถึงหลังพิจารณาไม่ฟ้อง บอส อยู่วิทยา ฐานกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 ก่อนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงจากกรณีดังกล่าว กระทั่งคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีมติเอกฉันท์ให้ออกจากราชการในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ นายเนตร นาคสุข ยังเป็นผู้ลงนามคำสั่งชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 ในคดีร่วมกันฟอกเงิน เงินปล่อยกู้แบงก์กรุงไทยให้กับกฤษดามหานคร จำนวน 10 ล้านบาทด้วย
ด้านการเมือง นายเนตร นาคสุข เคยลงสมัครเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึง 3 รอบด้วยกัน โดยการลงสมัครในรอบ 31 ม.ค. - 21 ก.พ. 2565 นายเนตรได้มาลงสมัครเป็นคนแรกด้วย ซึ่งขณะนั้น นายเนตรยังอยู่ระหว่างการถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง คดีบอส อยู่วิทยา
และสำหรับการลงสมัครรอบที่ 3 ระหว่าง 14 - 28 พ.ย. 65 นั้น นายเนตร เป็น 1 ใน 4 ผู้ลงสมัครเป็นกรรมการ ป.ป.ช. แทน พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง 9 ปี