ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และคณะ แถลงการจับกุมทลายเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ “ตี๋ใหญ่ 888” โดยมีพฤติการณ์สืบเนื่องจาก กองบังคับการปราบปรามเปิดยุทธการ "ถอนสมอตี๋ใหญ่ 888" หลังทีมสืบสวนเคยเข้าจับกุมพนักงานเว็บพนันชื่อดังเมื่อปี 2566 ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว แต่ล่าสุดพบกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ใหม่ ลอบนำเงินผิดกฎหมายฟอกผ่านธุรกิจถูกกฎหมาย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ ว่าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปิดเว็บพนันออนไลน์ที่ชักจูงประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนและผู้มีรายได้น้อย หลายคนต้องเผชิญกับภาวะหนี้สิน สูญเสียทรัพย์สิน ครอบครัวแตกแยก และบางรายถึงขั้นคิดสั้น
ขณะที่อาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล โดยเฉพาะกรณีเด็กและเยาวชนที่เริ่มก่อเหตุรุนแรง เช่น การชิงทรัพย์ หลังเสียพนันหมดตัวจากโลกออนไลน์
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งขยายผลตรวจสอบอย่างละเอียด ให้เชื่อมโยงชัดเจนไปถึงเครือข่ายและเจ้าของเว็บไซต์ตัวจริง หลังรับรายงานว่ามีขบวนการลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จนกระทั่งพบเบาะแสสำคัญ นำไปสู่การเปิดโปงเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ "ตี๋ใหญ่ 888" ที่ซ่อนตัวหลังโฆษณาออนไลน์เต็มรูปแบบ ทั้งแทงบอล บาคาร่า สล็อต และเกมเสี่ยงโชคเป็นจำนวนมาก
การตรวจสอบพบว่า เว็บไซต์ "ตี๋ใหญ่ 888" ดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 โดยมีการเปลี่ยนชื่อ เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย แต่มิอาจรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 50 บัญชี ในระยะเวลาประมาณ 2 ปี มีเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า 600 ล้านบาท ภายใต้ฉากหน้าเว็บพนัน กลับพบโครงสร้างการเงินที่ซับซ้อน ใช้บัญชีธนาคารในประเทศและ e-wallet ในการรับโอนเงิน ก่อนแยกกระจายไปยัง "บัญชีม้า" ที่มีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติ หรือมีความใกล้ชิดกัน
แม้แต่ละบัญชีจะมีเงินหมุนเวียนในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นจำนวนมหาศาล แต่กลับไม่มีเงินคงเหลือในบัญชี อีกทั้งยอดเงินหมุนเวียนยังขัดแย้งกับลักษณะอาชีพที่แสดงไว้ ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวมีการทำธุรกิจบังหน้าเพื่อฟอกขาว เช่น รับเหมาก่อสร้าง, บริการเช่ารถ, ปล่อยเงินกู้นอกระบบ เป็นต้น มีการใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนสืบสวนเชิงรุก ไล่แกะรอยทุกธุรกรรมทางการเงินอย่างละเอียด จนนำไปสู่การรวบรวมหลักฐานแน่นหนา พร้อมเปิดปฏิบัติการปิดล้อมทลายเครือข่ายผิดกฎหมายครั้งใหญ่ในรอบปี เพื่อรื้อถอนอาณาจักรพนันออนไลน์ที่สร้างความเสียหายระดับประเทศอย่างเด็ดขาด
จากการสืบสวนและแกะรอยเส้นทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าว ทั้งกลุ่มเจ้าของเว็บไซต์ กลุ่มที่มีส่วนร่วมในขบวนการ พนักงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการเว็บไซต์ รวมถึงกลุ่มบัญชีม้า
ซึ่งทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารเพื่อฟอกเงินและยักย้ายถ่ายเทเงินผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนได้เดินหน้าคลี่คลายคดีอย่างเป็นระบบ ก่อนสนธิกำลังรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุม กระทั่งสามารถขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาได้ทั้งหมด 13 หมาย ซึ่งศาลได้พิจารณาและอนุมัติตามคำขอ
ต่อมา เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยจากการสืบสวนพบว่า เจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ ได้เดินทางออกนอกพื้นที่ปฏิบัติการ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดจันทบุรี ก่อนข้ามพรมแดนบ้านผักกาด ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งน่าเชื่อว่าซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศเว็บไซต์พนันดังกล่าว จนมีการเดินทางกลับเข้าประเทศไทย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 80 นาย ได้สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการ “ถอนสมอตี๋ใหญ่ 888” ปูพรมเข้าตรวจค้นพร้อมกัน 14 จุดสำคัญในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และชลบุรี ก่อนเจ้าหน้าที่บุกทะลวงเข้าควบคุมตัวเป้าหมายได้ครบถ้วน ทั้งหมด 13 ราย ตั้งแต่เจ้าของเว็บ บุคคลที่ทำหน้าที่บัญชีม้า แอดมิน คนทำบัญชี รวมถึงคนเล่นพนัน
พร้อมตรวจยึดของกลางสำคัญ ประกอบด้วย รถยนต์ จำนวน 23 คัน เอกสารเกี่ยวที่ดิน จำนวน 49 รายการ ของใช้แบรนด์เนม จำนวน 46 รายการ ทองคำ จำนวน 5 รายการ อาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 22 รายการ สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 30 เล่ม บัตร ATM/เดบิต/เครดิต จำนวน 29 ใบ พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จำนวน 160 รายการ รวมมูลค่า 50 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีบัญชีและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องอีกมากซึ่งจะทำการขยายผลต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น เจ้าของเว็บไซต์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มผู้ต้องหาบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มบัญชีม้า ที่ยังคงให้การปฏิเสธ