บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวกัมพูชาเดินทางกลับเบาบางลงแล้ว เหลือเพียงหลักพันคนต่อวัน แต่หลังจากเมื่อวานนี้ ( 3 ส.ค. 2568) มีข่าวสะพัดว่า ฮุน เซน จะยึดที่ดินคืนถ้าหากไม่ยอมกลับบ้านของตนเอง ทำให้ชาวกัมพูชาที่ทราบข่าว แห่เดินทางกลับเพิ่มมากขึ้นกว่าหมื่นคน โดยแต่ละคนขนข้าวของสัมภาระของตนเองกลับเป็นจำนวนมาก มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดทั้งประตูเล็กและประตูใหญ่เพื่ออำนวยความสะดวกเร่งระบายคนที่หนาแน่นหน้าด่าน
ส่วนบริเวณตลาดการค้าชายแดนบ้านแหลม ร้านค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นของชาวกัมพูชายังคงปิดเงียบสนิท มีเพียงบางร้านที่เป็นของพ่อค้าชาวไทยยังคงเปิดอยู่เพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น โดยฝั่งไทยยังคงปิดประตูใหญ่ซึ่งเป็นประตูหลักและเปิดเพียงช่องประตูเล็ก ให้เดินเข้าออกได้อย่างเดียว เป็นไปด้วยตามเวลาที่กำหนดไว้ เปิดเวลา 09.00น.และปิด 15.00น.
ขณะที่ นายกองเอก ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย- กัมพูชา จันทบุรี ที่มาเฝ้าสังเกตการณ์และมาร่วมจัดระเบียบและดูแลแรงงานกัมพูชา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทหารพราน กองทัพเรือ ตำรวจตระเวนชายแดน ตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ในครั้งนี้
นายกองเอก ดร.รัฐวิทย์ เผยว่า ช่วงนี้แรงงานกัมพูชากลับเยอะมาก ต้องฝากถึงกระทรวงแรงงาน ทั้งท่านอธิบดีและรัฐมนตรี ต้องขอให้แม่นนะครับ คาดว่าตอนนี้แรงงานที่กลับไปแล้วประมาณ 200,000 คน อยากให้กระทรวงแรงงานรับรู้ด้วยว่าเป็นห่วงโซ่หลายเรื่อง
นอกจากนี้อยากฝากถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติว่า อะไรที่ประสานในเรื่องของสันติ และเรื่องของการดำเนินการที่ให้พี่น้องประชาชนอยู่ได้ให้รีบดำเนินการ เนื่องจากสถานการณ์คนในเมืองกับสถานการณ์คนที่อยู่ตามแนวชายแดนคนละอย่างกัน
อยากขอบคุณทุกภาคส่วนพี่เข้าใจในบริบท ในเรื่องการอำนวยความสะดวกที่ช่วยให้เขาได้กลับบ้าน ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ที่มีการรบกันเราก็ต้องรีบที่จะกลับบ้านเป็นเรื่องปกติเหมือนกัน ต้องบอกกับกระทรวงแรงงานว่าแรงงานกลับไปไม่ใช่น้อย เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่ากลับไปแค่ 20,000 คน คาดว่ากลับเยอะกว่านั้น และเชื่อว่าแรงงานชาวกัมพูชาจะกลับภูมิลำเนาอีกเรื่อยๆ เพราะเป็นเหมือนห่วงโซ่ที่ดึงกัน พ่อแม่เขาก็โทรเร่งให้รีบกลับ