พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดเผยถึงกรณีที่อินฟลูเอนเซอร์ มาขออนุญาตหลวงพ่อเปิดบัญชีใช้ชื่อตัวเอง เพื่อนำไปทำกิจกรรมอาสาให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ตั้งแต่เมื่อปี 2562 ซึ่งที่ผ่านมาทางเลขาของอินฟลูฯ ได้มีการรายงานการเบิกจ่ายทุกครั้ง แต่พฤติกรรมของอินฟลูฯ คนดังกล่าวคือหากมีเงินบริจาค 1,000,000 บาท ก็จะนำเงินสดใส่ซองมามอบให้ทางวัด 900,000 บาท
ส่วนเงินอีก 100,000 บาท จะนำไปทำโครงการจิตอาสา เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ตรงส่วนนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเงินจะเข้าไปที่ตัวโครงการโดยตรง ที่ผ่านทางเจ้าอาวาสไม่เคยทราบว่ามีเงิน 100,000 บาท ถูกนำไปใช้ในโครงการ พึ่งมาทราบเมื่อปีที่แล้ว เพราะเลขามาบอก เบื้องต้นแจ้งมาว่าทำไปแล้วประมาณ 10 ครั้ง นอกจากนี้ชาวบ้านที่บริจาคเงินก็ได้มีการตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องรถ และบ้านที่อินฟลูฯ แจ้งว่าจะสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม รวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนม แต่เจ้าอาวาสขอตัดประเด็นแบรนด์เนมทิ้ง เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลและทางหลวงพ่อไม่ทราบรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่สามารถปรักปรำได้ ส่วนบ้านหลังที่เป็นประเด็นทางเจ้าอาวาสก็ยังไม่ได้เข้าไปดู มาทราบตอนที่สร้างเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเขาแจ้งว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่มีที่พักอาศัย ห้องนอน และห้องทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่เรื่องที่ดินคาดว่าน่าจะเป็นชื่อของเขา ต้องรอเจ้าตัวออกมาชี้แจงอีกครั้ง
หลวงพ่ออลงกต เผยว่าอินฟลูฯ มีความประมาทเลินเล่อ จึงมองว่าตรงนี้เป็นข้อบกพร่อง “ไม่รายงาน ไม่มาเล่าให้หลวงพ่อฟัง” อาจจะมองว่าหลวงพ่อไม่มีเวลาฟังหรือไม่ เวลาหลวงพ่อถามอะไรเขาก็ตอบไม่ลงลึก ตอนนี้ไม่มีการติดต่อกันเนื่องจากเจ้าตัวป่วย และรูปแบบการทำงานของเขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว จึงทำให้ทางเจ้าอาวาสไม่สามารถลงรายละเอียดในบางกรณีได้ เพราะเจ้าอาวาสเองก็มีภารกิจเยอะกว่าเขา จึงไม่มีเวลามาสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น มีเพียงเลขาที่เป็นตัวแทนมาชี้แจงเท่านั้น
ส่วนประเด็นที่มีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าอาวาสจะนำหลานหรือญาติมาควบคุมกำกับโครงการภายในวัดนั้น ยืนยันว่าไม่จริง เพราะตั้งมั่นอยู่แล้วว่า หากมีญาติหรือครอบครัวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องจะมีความวุ่นวายแน่นอน นอกจากนี้ทางตำรวจเคยเข้ามาที่วัดเพื่อขอข้อมูลเมื่อ 1-2 เดือนที่แล้ว เรื่องของเส้นเงิน จนทราบว่าบัญชีของอินฟลูฯ ที่เปิดรับบริจาคมีความผิดปกติ เจ้าอาวาสจึงได้เรียกมาคุยไปแล้ว โดยเจ้าตัวบอกว่าจะกลับไปรวบรวมเอกสารหลักฐานของโครงการต่างๆ และกลับมาชี้แจง ซึ่งทางกรรมการวัดก็เป็นคนตรวจสอบ
ส่วนที่ตำรวจจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด หรือแม้เเต่ตัวเจ้าอาวาส ก็ไม่ได้กังวลอะไร พร้อมบอกว่า กรณีนี้คนที่เป็นเจ้าทุกข์คือชาวบ้านที่ทำบุญบริจาค และอินฟลูฯ ตกเป็นจำเลยสังคม ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องชี้แจงกับสังคม ปัจจุบันนี้บัญชีดังกล่าวถูกระงับไปเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น
การระงับในครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการปิดบัญชี แต่หมายถึงอินฟลูฯ ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินจากบัญชีดังกล่าวได้ เนื่องจากนำกลับมาดูแลซึ่งมันก็สามารถที่จะโอนเงินบริจาคได้ตามปกติ “เมื่อไรก็ตามที่เราสามารถพิสูจน์ได้ว่าอินฟลูฯ มีการทุจริต หรือยักยอกเงินวัด หลวงพ่อดำเนินการแน่นอน เพราะหลวงพ่อสอนเขาด้วยปากตัวเอง“ หลวงพ่ออลงกต กล่าว ในวันพรุ่งนี้ทางคณะกรรมการวัดทั้งหมด จะมีการประชุมหารือกันถึงเรื่องนี้ และจะแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้รับทราบอีกครั้งที่วัดพระบาทน้ำพุ