รู้จัก "งูทับสมิงคลา" งูพิษร้ายแรงอันดับ 1 ของไทย กับวิธีปฏิบัติเมื่อถูกฉก!

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ทำความรู้จัก "งูทับสมิงคลา" งูพิษร้ายแรงอันดับ 1 ของไทย หลังพบที่ จ.ตรัง มีฝาแฝดเป็นงูไร้พิษอย่าง "งูปล้องฉนวน" พร้อมวิธีปฏิบัติเมื่อถูกฉก - ป้องกันงูฉก

จากกรณีที่ “เบ็นซ์ อสรพิษ” เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย ได้รับแจ้งจากยายชาว จ.ตรัง รายหนึ่งว่า พบงูตัวใหญ่เลื้อยซุกอยู่ใต้ตู้เสื้อผ้า ก่อนที่ต่อมาจะพบว่าเป็น "งูทับสมิงคลา" ที่มีพิษ โดยเบ็นซ์ อสรพิษเตือนว่า งูชนิดนี้มีพิษร้ายแรงอันดับ 1 ของประเทศ นั้น PPTV จะพามาทำความรู้จักงูชนิดนี้กัน

งูทับสมิงคลา (Malayan Krait) เป็นงูที่มีพิษร้ายแรง มีลำตัวค่อนข้างกลม มีสันเล็กน้อยแต่ไม่ชัดเจนอย่างงูสามเหลี่ยม อาจมีความยาวรวมประมาณ 108 เซนติเมตร

งูทับสมิงคลา Thai National Parks
งูทับสมิงคลา

มีหางยาวประมาณ 16 เซนติเมตร มีสีดำสลับขาวเป็นปล้องตลอดความยาวลำตัว จำนวน 27–34 แถบ ลำตัวด้านข้างจะแคบและโค้งมน ส่วนท้องมีสีขาว ส่วนบนของหัวมีสีดำปนเทา ส่วนหางเรียวยาวและปลายหางแหลม

งูทับสมิงคลา เป็นงูที่ว่องไวปราดเปรียวและมีพิษรุนแรงกว่างูสามเหลี่ยม โดยพิษของงูทับสมิงคลาจะมีผลต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ป่วยเกิดหนังตาตก พูดไม่ชัด หายใจไม่สะดวก

งูชนิดนี้พบทั่วทุกภาคของประเทศ โดยพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งมักพบอาศัยตามดินที่ลุ่มชิ้นใกล้กับแหล่งน้ำ โดยมักออกหากินยามกลางคืน จับงูขนาดเล็ก จิ้งเหลน กบ และเขียดเป็นอาหาร

นอกจากนี้ ยังพบในเขตอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่อินโดจีนตอนใต้ จนถึงเกาะชวาและบาหลี ในประเทศอินโดนีเซีย

"งูปล้องฉนวน" งูไร้พิษแฝดทับสมิงคลา

งูปล้องฉนวน เป็นงูลำตัวเรียวยาว มีแถบสีขาวสลับดำ หรือสีดำอมๆ เทา พอโตขึ้นจะจางลงเริ่มจากส่วนหางขึ้นมา กลุ่มงูปล้องฉนวนเกล็ดมีลักษณะเท่าๆกัน ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มงูทับสมิงคลาหรืองูสามเหลี่ยมที่มีพิษอันตรายลักษณะ ที่จะมีเกล็ดกลางสันหลังเป็นเกล็ดขนาดใหญ่ลักษณะเป็นรูปหกเหลี่ยม

อย่างไรก็ตามงูปล้องฉนวน เป็นงูที่ไม่มีพิษ ไม่มีอันตราย กินสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เช่น เขียด กิ่งก่า จิ้งเหลนเท่านั้น

งูปล้องฉนวน Thai National Parks
งูปล้องฉนวน

หลักในการจำแนกงูทับสมิงคลา-ปล้องฉนวน

สำหรับหลักในการจำแนกความแตกต่างที่แม่นยำมากที่สุด นายนิรุทธ์ ชมงาม หรือ ประธานกลุ่มอสรพิษวิทยา (นิค อสรพิษวิทยา) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านงู และเจ้าของเพจ Nick Wildlife ให้สัมภาษณ์ว่า ในการจำแนกงูทั้ง 2 ชนิดนี้ จะใช้เกล็ดกลางหลังเป็นหลัก กลุ่มงูปล้องฉนวนเกล็ดจะมีลักษณะเท่าๆ กัน ส่วน กลุ่มงูสามเหลี่ยม งูทับสมิงคลา เกล็ดกลางหลังจะเป็นเกล็ดขนาดใหญ่รูปหกเหลี่ยม

การป้องกันงูฉก

  • ถ้าพบงูในระยะห่าง อย่าเข้าใกล้ เพราะงูจะไม่ทำร้ายมนุษย์เช่นกัน
  • ถ้าพบงูในระยะใกล้ ให้อยู่นิ่งๆ รองูเลื้อยหนีไป เพราะงูส่วนใหญ่สายตาไม่ดี มักจะฉกสิ่งที่เคลื่อนไหว เพื่อป้องกันตัวเองจากศัตรู
  • ถ้างูไม่ยอมเลื้อยหนี ให้ก้าวถอยอย่างช้าๆ จนพ้นระยะห่าง 2 เมตร ซึ่งเป็นระยะพ้นจากการฉกกัดของงู
  • หากมีความจำเป็นต้องเดินเข้าไปในพื้นที่ที่มีงู ให้สวมรองเท้าบูตยาวเพื่อป้องกันงูกัด และใช้ไม้ยาวๆ เคาะไปตามพื้นหรือพื้นที่ด้านหน้าเพื่อเตือนให้งูหนีไปก่อน หรือตรวจดูว่ามีงูอยู่หรือไม่
  • ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในเวลากลางคืน หากจำเป็นควรพกไฟฉายหรือวัตถุที่ให้แสงสว่างส่องนำทาง
  • ตรวจเช็กบริเวณที่นอนและกองผ้าต่างๆ ก่อนทุกครั้ง เพราะงูมักจะมาหาที่อบอุ่นเพื่อหลบซ่อนตัวอยู่ตามกองผ้า ที่นอน หมอน และมุ้ง

งูทับสมิงคลา Thai National Parks
งูทับสมิงคลา

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกฉก

  • ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือทันที
  • ใช้ผ้าพันแผล โดยเริ่มพันจากรอยแผลถูกกัดแล้วพันต่อไปจนถึงข้อต่อหรือสูงเหนือบาดแผลให้มากที่สุด
  • หาไม้กระดานหรือวัสดุที่มีความแข็งแรงมาดาม แล้วพันด้วยผ้าพันแผลทับอีกครั้ง เพื่อให้อวัยวะส่วนที่ถูกกัดเคลื่อนไหวน้อยที่สุด
  • นำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว เพื่อรับการรักษาด้วยเซรุ่มแก้พิษงู

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อถูกฉก

  • ไม่จำเป็นต้องฆ่างูให้ตาย เพื่อเอามาโรงพยาบาล ให้ถ่ายภาพมาก็เพียงพอแล้ว เสร็จแล้วให้รีบมาโรงพยาบาลทันที
  • ไม่ควรใช้ไฟจี้ หรือเอามีดกรีดบาดแผล เพราะจะทำให้แพทย์วินิจฉัยผิดพลาด
  • ไม่ควรใช้การขันชะเนาะ เพราะจะทำให้อวัยวะขาดเลือด
  • ไม่ควรใช้ปากดูดแผล
  • ไม่ควรให้ผู้ป่วยดื่มสุรา
  • ไม่ควรใช้ยากระตุ้นหัวใจ มอร์ฟัน ยาระเหย หรือยาแก้แพ้ต่างๆ เพราะจะทำให้สับสนถึงอาการของพิษงูทางระบบประสาท (หากปวดมาก ให้ใช้ยาพาราเซตามอลได้)

งูทับสมิงคลา Thai National Parks
งูทับสมิงคลา

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ