ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านพักของนางสาวตระกูลฯ ซึ่งพักอาศัยอยู่กับบุตรสาววัย 10 ขวบ โดยทั้งสามผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์สังกัดเดียวกันทั้งหมด
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีเสียงปืนดังขึ้น 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 และ 2 ครั้งละ 4 นัด ส่วนครั้งที่ 3 จำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ข้างศพของนายณัฐพงศ์ และพบอีก 2 กระบอกอยู่ในกระเป๋าสะพาย
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสาวตระกูลฯ เพิ่งกลับจากตรวจเวรที่ทัณฑสถานพยาบาล และมานั่งรับประทานอาหารหน้าบ้านกับลูกสาวและเพื่อนร่วมงาน รวมถึงนายวิชิตฯ ซึ่งเพิ่งย้ายมาประจำที่เรือนจำกลางนครราชสีมาได้ 2 เดือน และคบหากันได้ราว 1 เดือน
ขณะนั้น นายณัฐพงศ์ ซึ่งเป็นอดีตสามีที่เพิ่งหย่ากับนางสาวตระกูลฯ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ได้เดินทางมาหาที่บ้าน ด้วยอารมณ์หึงหวง ก่อนชักอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ยิงใส่นางสาวตระกูลฯ และนายวิชิตฯ เข้าที่ลำตัวและหน้าอกจนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นได้ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเสียชีวิตภายหลังที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุมาจากความหึงหวง เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังผูกพันกับอดีตภรรยา แม้เพิ่งหย่าร้างกันไม่นาน กระทั่งพบว่าฝ่ายหญิงเริ่มคบหากับเพื่อนร่วมงานรายใหม่ จึงบันดาลโทสะก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว
โดยในขณะเกิดเหตุ บุตรสาววัย 10 ขวบที่อยู่บนชั้นสองของบ้านได้พยายามตะโกนร้องห้ามบิดา แต่ไม่เป็นผล ก่อนโทรแจ้งตำรวจและหน่วยกู้ภัยด้วยตนเอง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรจากแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ก่อนให้ญาติติดต่อรับศพทั้งสามรายไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ราชทัณฑ์ แจง “ผู้คุมโคราช” ยิงดับ 3 ศพ เหตุจากเรื่องส่วนตัว
กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากเรือนจำกลางนครราชสีมาว่า วันที่ 4 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าพนักงานเรือนจำได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังจากบ้านพักเจ้าหน้าที่หลังหนึ่ง จึงแจ้งพัศดีเรือนจำ พร้อมนำกำลังเจ้าพนักงานจำนวนหนึ่งมาที่บ้านพักที่เกิดเหตุดังกล่าว และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยกู้ภัย และ 1669
เมื่อเข้ามาถึงบริเวณบ้านพักได้พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย คือ นายวิชิต (สงวนนามสกุล) และผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย คือ นางสาวตระกูล (สงวนนามสกุล) และนายณัฐพล (สงวนนามสกุล) โดยได้นำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ต่อมาผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าพนักงานทั้ง 3 ราย ได้นั่งรับประทานอาหารกัน ณ บ้านพักที่เกิดเหตุดังกล่าว เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องส่วนตัว โดยสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กรมราชทัณฑ์ขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย และจะให้การดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฌาปนกิจศพของเจ้าพนักงานเรือนจำต่อไป