พลโทบุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พลโทวีระยุทธ รักศิลป์ หรือ "แม่ทัพเติ่ง" แม่ทัพภาคที่ 2 คนปัจจุบัน ถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างหนัก ว่าได้บอก พลโท วีระยุทธ ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องพบเจอเหตุการณ์แบบนี้
แม้ พลโทวีระยุทธ จะพูดไม่เก่ง แต่ตนยืนยันได้ว่า ทำงานและรู้งานทั้งหมด ช่วงที่ปะทะกับกัมพูชาก็อยู่แนวหน้าด้วยกันตลอด
แต่ประชาชนจะไม่ค่อยเห็น "แม่ทัพเติ่ง" ซึ่งตอนนั้นเป็นรองแม่ทัพออกสื่อ มีแต่แม่ทัพกุ้งเท่านั้นที่ออกสื่อ อยากให้ประชาชนให้เวลา เพราะเพิ่งรับตำแหน่งไม่ถึงเดือน ตอนนี้ก็ลงพื้นที่ตลอด ตนก็ได้แต่ให้กำลังใจ
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (20 ต.ค. 2568) พลโทบุญสิน แสดงความเห็นในลักษณะเหมือนไม่เห็นด้วยกับการประชุม JBC พลโทบุญสิน อธิบายว่า การประชุม RBC ในส่วนกองทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ยังไม่ไปประชุม เพราะสถานการณ์ยังตึงเครียดอยู่ คุยกันไปก็ไม่มีผลอะไร แต่การประชุม JBC เป็นเรื่องของรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ มีคณะอนุกรรมการปักปันเขตแดน กรมแผนที่ทหาร เชื่อว่าคงมีแนวทางที่จะไปคุยให้ชัดเจนจึงผลักดันให้มีการประชุม
แต่ในส่วน RBC ตนมองว่าหากสถานการณ์ยังตึงอยู่แบบนี้ คุยไปก็ไม่มีผลอะไร เพราะสุดท้ายกัมพูชา ก็ต้องรอนโยบายเบอร์หนึ่งของกัมพูชาก่อน ส่วน 4 ข้อเสนอของที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC ควรจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ พลโทบุญสินกล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นอะไร แต่อยากให้ผู้นำกัมพูชามีความจริงใจมากกว่า
เมื่อถามว่าอยากให้กัมพูชาถอนฟ้องเรื่องเคลม 3 ปราสาท 1 พื้นที่ ออกจากศาลโลกหรือไม่ พลโท บุญสินกล่าวว่า เป็นแนวทางที่จะคุยอยู่แล้ว เพราะเรื่อง 3 ปราสาท 1 พื้นที่ ที่กัมพูชาอ้างเรื่องพวกนี้ถึงทำให้รบกัน เราอยู่มานานแล้ว วันดีคืนดีก็มาบอกว่าเป็นของกัมพูชา ยกกำลังมาก่อเหตุ เป็นเรื่องราวสตอรี่ ที่เด็กอมมือก็ยังรู้
พลโทบุญสิน ยังยืนยันว่าไม่เล่นการเมือง ไม่ว่าจะเป็นปัจจุบันหรืออนาคต เพราะเป็นทหารราชองครักษ์พิเศษแล้ว และเป็นตลอดชีวิต อย่างไรก็ตามพร้อมสนับสนุนพี่น้องนักการเมืองในการทําเรื่องที่ดี นักการเมืองหลายคนก็มีนโยบายที่ดี ส่วนคนที่ถูกฟ้องร้องก็ต้องไปแก้ไขตัวเอง
“แม่ทัพกุ้ง” ชี้แจงว่า ไม่ใช่ว่าไม่คบหากับนักการเมือง ส่วนตัวก็รู้จักนักการเมืองหลายคน แม้แต่นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ก็รู้จักและสนับสนุนการทํางานเพื่อประเทศชาติ แต่ยืนยันขอทําหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ผบ.ทบ. พร้อมทั้งใช้ความรู้ความสามารถในการสนับสนุนเรื่องงานด้านความมั่นคงเท่านั้น