ยังคงเป็นที่พูดถึงสนั่นโซเชียล กรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลนำ ปราสาทตาควายกลับมา เพราะปราสาทตาควาย เป็นของไทย โดยเพจชุมชนคนสุรินทร์ ได้โพสต์ภาพหลายเหตุการณ์ที่ยืนยันว่า ปราสาทตาควายนั้นเป็นของไทย
ย้อนกลับไปในอดีต “งานส่งเสริมการท่องเที่ยวปราสาทตาควาย” ซึ่งจัดโดย องค์การบริหารส่วนตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ได้โพสต์ภาพ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2559 โดยในภาพเป็นการจัดงาน ปีครั้งที่ 3 ซึ่งนอกจากกิจกรรมพิธีอุทิศส่วนกุศลให้แก่ทหารกล้าแล้ว
ยังมีการบวงสรวงปราสาท ให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงประเพณีท้องถิ่น มีขบวนแห่และขบวนนางรำของเยาวชนตำบลบักได มีประกวดร้องเพลง การแข่งขันชกมวยและมวยทะเล เป็นสีสันของการจัดงานเพิ่มขึ้น ให้ชุมชนทุกหมู่บ้าน ทั้ง 20 หมู่ เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งผู้แทนประกวดร้องเพลงและประกวดอาหารพื้นบ้าน ส่วนราชการพื้นที่อำเภอพนมดงรัก ร่วมจัดนิทรรศการของดีในชุมชน
นอกจากนี้ เพจชุมชนคนสุรินทร์ ยังแชร์ภาพ เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปทำงานปราบปราม การขโมยรถจักรยานยนต์ไปกัมพูชา การลักลอบตัดไม้ จนได้ไปพบกับปราสาทตาควาย เมื่อปี 2549 ซึ่งตอนนั้นไม่ค่อยมีคนขึ้นไปเที่ยวชม สภาพรก ต้นไม้ใหญ่น้อยปกคลุมบริเวณรอบๆ ปราสาท พร้อมข้อความระบุว่า “ปราสาทตาควาย เป็นของดินแดนไทย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตามสันปันน้ำ แผนที่ 1:50000 ฝากท่านผู้มีอำนาจพิจารณาด้วย”
ด้านนายภูริภาคย์ ศรีรัตน์ดีจรัส อายุ 38 ปี หรือ ช่างบิ๊ก บุรีรัมย์ ชาว ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ให้สัมภาษณ์ หลังโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เพื่อขอให้ทวงคืนปราสาทตาควายว่า ตั้งแต่ก่อนจะมีการปะทะ ตนเองกับทีมงานเดินทางไปช่วยทหารทั้งขนยางรถยนต์ เอาไปทำเป็นบังเกอร์หลายคันรถ เอาข้าวสารอาหารแห้งไปหลายครั้ง ต่อมาหลังหยุดยิง ทราบข่าวว่า ทหารกัมพูชา สามารถยึดครองเอาปราสาทตาควายได้ ตอนนั้นคิดว่าอาจจะพอมีแนวทางยึดกลับคืนมา แต่หลังมีการลงนามที่มาเลเซีย มองว่าโอกาสที่จะได้ปราสาทคืนมายากขึ้น หรือเท่ากับอาจจะหมดแล้ว ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า หลังรู้ข่าวตอนหยุดปะทะ พยายามขับรถไปมองทั้งน้ำตาด้วยความเสียดาย ส่วนหนึ่งก็อยากจะฝากถึงนายกรัฐมนตรี ว่าให้หาแนวทางเอาปราสาทตาควายกลับคืนมาเป็นของไทยคืน เพราะจุดนั้นเป็นแผ่นดินของไทย
ด้านเพจ Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ โพสต์ภาพรถถัง และรถทหาร วิ่งไปบนถนนที่มีแต่เลนและโคลน พร้อมระบุข้อความ เกี่ยวกับถนนยางมะตอย , คอนกรีต กับยุทธศาสตร์ในการปกป้องกันประเทศระยะยาวที่คุ้มค่าแก่การดำเนินการ โดยช่วงหนึ่งมีการยกตัวอย่างของเหตุการณ์ในอดีตว่า ทหารญี่ปุ่นรบพ่ายแพ้กองทัพอังกฤษที่สมรภูมิอิมฟัล เพราะการส่งกำลังบำรุงมีปัญหา ทหารเยอรมันที่มีศักยภาพและมีระเบียบวินัยรวมถึงอาวุธที่ดี แพ้ต่อกองทัพโซเวียตที่สมรภูมิสตาลินกราด ปัญหาหลักในการแพ้คือการขนส่ง
ส่วนกรณีกัมพูชา ที่ผ่านมา เห็นได้ว่ายุทธศาสตร์ภาพรวมของการส่งกำลังบำรุงของทหารไทยนั้น เสียเปรียบทหารกัมพูชา เป็นอย่างมาก คือ ฝ่ายกัมพูชามีการสร้างถนนที่เป็นถนนคอนกรีตหรือลาดยางมะตอย เลาะตามแนวตะเข็บชายแดน เมื่อถึงจุดสำคัญก็จะทำถนนแยกย่อยเข้าไปยังจุดที่เป็นฐานทหารของฝ่ายตัวเอง ทําให้สามารถขนส่งยุทโธปกรณ์ ยุทธปัจจัยและกําลังทหาร เข้ามาเสริมในพื้นที่ได้โดยง่ายและรวดเร็ว
ต่างจากไทยที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่ารกทึบ ไม่มีถนนถาวรที่เป็นยางมะตอยหรือคอนกรีตเข้าสู่พื้นที่ฐานทหาร จะมีก็แต่ถนนที่เป็นถนนดินลูกรัง หรือ แค่ถนนดินที่แทบจะไม่ได้บดอัด ซึ่งยากต่อการขนส่งหรือลําเลียง ประกอบกับเส้นทางถนนดินที่เข้ามายังฐานพื้นที่ปฏิบัติการอยู่ห่างจากถนนหลัก เป็นระยะทางไกลมาก นั่นหมายความว่า ทหารไทยต้องใช้ทั้งเวลา และความพยายามในการเข้าพื้นที่ ฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ได้ง่าย แต่ฝ่ายไทยนั่นเข้าพื้นที่ได้ยาก แต่ยังโชคดีที่ไทยมีทหารที่มีความมุ่งมั่นอดทน มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีศักยภาพมากกว่าฝ่ายกัมพูชาทำให้ฝ่ายไทยสามารถรุกเข้ายึดพื้นที่คืนได้ในหลายจุด
แต่ปราสาทตาควายและพื้นที่เนิน 350 เป็นบทเรียนหนึ่ง ที่ทําให้เรารู้ว่า เรามีความเสียเปรียบในเรื่องเส้นทางการขนส่งกำลังบำรุงเพราะเส้นทางการเข้าถึงตัวเนิน 350 ของฝ่ายไทยที่เป็นทางเล็กๆ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก ที่ฝ่ายไทยไม่สามารถยึดเนิน 350 และปราสาทตาควาย ได้ในเวลาที่กําหนด ส่วนตัวไม่รู้ การรบครั้งนี้มันจะยุติแล้วจริงๆ หรือไม่ ถึงยุติลงในครั้งนี้จริง แต่ด้วยพฤติกรรมของทหารและผู้นํากัมพูชา จึงมองว่าหลีกเลี่ยงได้ยากที่จะไม่มีการรบกันอีกในอนาคต
เพราะฉะนั้นเราควรเตรียมพร้อมไว้ ถนนที่ดีคือเครื่องเสริมศักยภาพของเจ้าหน้าที่ทหารในการรักษาอธิปไตยของไทย ถนนไม่ใช่เพียงเรื่องการส่งกำลังบำรุง อาวุธ ยุทโธปกรณ์ ยุทธปัจจัย ยังจำเป็นต่อการส่งคนเจ็บกลับไปรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งถือว่าเป็นขวัญกำลังใจอย่างหนึ่งของทหารว่าถ้าได้รับบาดเจ็บแล้วไม่ตายแน่นอน เพราะหากบาดเจ็บหนักจนต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล ก็จะออกไปได้อย่างทันท่วงที
รวมไปถึงการส่งกำลังจากภายนอกเข้ามาเสริมกำลังในการป้องกัน เรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดกันก็คือเรื่องของอัตราความถี่ในการซ่อมบํารุงช่วงล่างของยานพาหนะหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องเสียไปในการใช้งานในลักษณะของถนนลูกรัง ที่มีหลุมบ่อต้องมีการเบรกหรือมีการเร่งเครื่องยนต์อยู่บ่อยครั้ง เป็นต้นเหตุของการสิ้นเปลืองพลังงาน
ลองคิดดูว่าในแต่ละวัน ถนนหนึ่งเส้นทางที่จะเข้าไปยังฐานปฏิบัติการขนาดใหญ่ จะต้องมีรถวิ่งเข้าออกกี่คัน กี่เที่ยวและใช้น้ำมันมากเท่าไหร่ อะไหล่จะสึกหลอมากน้อยเท่าไหร่แค่ไหน การที่เราสามารถประหยัดหรือยืดอายุการใช้งานอะไหล่ต่างๆ ตลอดจนประหยัดน้ํามันในการใช้งาน ล้วนแล้วแต่ มีส่วนในการได้มาซึ่งชัยชนะ เพราะฉะนั้นถนนที่ดีจึงจะเสริมศักยภาพของทหารที่มีวินัยที่ดีอยู่แล้วและอาวุธที่ดีอยู่แล้ว ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น...