2 พ.ย. 68 เวลา 00.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. และคณะ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศอ.ปส.ตร., ศอ.ปส.บช.น. , บก.สส.บช.น., บก.น.5 และ บช.ปส. หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ผ่านชุดลาดตระเวนออนไลน์ เกี่ยวกับกลุ่มชายรักชาย ที่รวมตัวเสพยาเสพติดและมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงมีการแพร่ระบาดยาเสพติดภายในกลุ่มชนชั้นสูง
และตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. ใช้มาตการเด็ดขาดสแกนแหล่งท่องเที่ยวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น/ หัวหน้าด้านยาเสพติด บช.น. ส่งสายสืบแฝงตัวไปในปาร์ตี้ดังกล่าว จนทราบว่ามีการนัดหมายเพื่อมั่วสุมเสพยา ที่ห้องสูทในโรงแรมหรูชื่อดังย่านสุขุมวิท เขตคลองตันเหนือ กรุงเทพฯ
กระทั่ง วันที่ 2 พ.ย. 68 ภายในปาร์ตี้ ได้เริ่มมั่วสุมยาเสพติด พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งนำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นายบุกเข้าไปยังโรงแรมอย่างฉับพลันสู่จุดมั่วสุม
จากการตรวจสอบพบกลุ่ม ชาย LGBTQ+ กว่า 29 คน มีชาวไทย 28 คน ชายฟิลิปปินส์ 1 คน สวมกางเกงในตัวเดียว เมื่อบุกเข้าไปตามห้องเล็กพบการมั่วสุมสวาทกันอยู่หลายห้อง และพบของกลางจำนวนมาก ได้แก่
- ยาไอซ์ 1.11 กรัม
- ยาบ้า 2 เม็ด
- ยาอีน้ำ 1 ขวด
- เคตามีน 0.75 กรัม
- ยาไวอากร้า 2 กล่อง
- ยาป๊อปเปอร์ (สารระเหย ใช้ลดความปวดทวารหนัก) จำนวน 30 ขวด
- เข็มฉีดยา 10 เข็ม
- อุปกรณ์การเสพยาเสพติด
- ถุงยางอนามัย
- เจลหล่อลื่น
เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวไว้ทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ครอบครองยาเสพติดจำนวน 3 คน และตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดจำนวน 4 คน โดยเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมตัว
- นายทวีพล อายุ 35 ปี ถูกแจ้งข้อหา “มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) เพื่อเสพโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, จำหน่ายหรือจัดหาสารระเหยให้แก่ผู้ซึ่งตนรู้หรือควรรู้ว่าเป็นผู้ติดสารระเหย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”
- นายพงศกรณ์ อายุ 34 ปี ถูกแจ้งข้อหา “มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”
- นายกฤตยชญ์ อายุ 27 ปี ถูกแจ้งข้อหา "มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ จูงใจ ชักนำ ยุยง ส่งเสริมใช้อุบายหลอกลวง หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด ให้ผู้อื่นเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และสารระเหย" ตามมาตรา 171 และ173 และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย"
- นายสติวณิตย์ อายุ 31 ปี ถูกแจ้งข้อหา "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย"
ในส่วนของ 25 ราย ขณะนี้ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี ได้ดำเนินการจัดทำประวัติและอยู่ระหว่างการซักถามขยายผลเพิ่มเติม ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. / รองโฆษก ตร. กล่าวว่า “ขอเตือนภัยเรื่องของยา ป๊อปเปอร์ (Popper) หรือเอมิลไนไตรท์ เดิมทีเป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์ แต่ปัจจุบันกลับถูกในมาใช้ในทางที่ผิด โดยกลุ่มชายรักชายมักจะใช้เพื่อลดอาการเจ็บปวดจากการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด เพราะการใช้สารระเหยดังกล่าวต้องใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น”
“และจากการขยายผลทราบว่ากลุ่มผู้จัดกิจกรรมมั่วสุมยาเสพติดครั้งนี้คือกลุ่มเดียวกับที่เคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 67 พื้นที่ สน.ทองหล่อ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สำนึกในการกระทำ โดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้สั่งการให้บูรณาการร่วมกับพล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส.ในการขยายผลให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประชาชน ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.” พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าว