ลุ้นไทม์ไลน์ชาย 28 ปีเชียงราย ติดโควิดจากเพื่อนสาวพะเยา
ด่วน !! เชียงราย พบอีก 2 ราย ติดโควิด-19 หนีด่านตรวจจากท่าขี้เหล็กเข้า อ.แม่สาย
นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 2 คน ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เป็นหญิงอายุ 25 ปีทั้งสองคน โดยคนแรกมีอาการไอ เสมหะ น้ำมูกและจมูกไม่ได้กลิ่น ส่วนอีกคนมีไข้และปวดเมื่อยตามตัว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนและรวบรวมกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งสูงและต่ำ ทำให้มีผู้ติดเชื้อใน จ.เชียงราย ในขณะนี้จำนวน 11 คน เป็นการติดเชื้อภายนอกศูนย์ตรวจกักดูอาการ หรือ State local Quarantine จากผู้ที่เดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก 6 คน และในศูนย์ฯ 5 คน
ทั้งนี้ 2 รายล่าสุดเกิดจากกรณีหญิงที่ทำงานในโรงแรมวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก คนหนึ่งได้หลบหนีเข้าทางช่องทางธรรมชาติสู่ อ.แม่สาย แล้วไปพักที่เดียวกับผู้ป่วยกลุ่มก่อนหน้านี้ ที่เป็นผู้ป่วยใน จ.เชียงใหม่ และพะเยาโดยลักลอบเข้าไทยวันที่ 28 พฤศจิกายนและมีอาการป่วยวันที่ 2 ธันวาคม โดยก่อนหน้านี้ได้มีการไปตรวจที่คลินิกแห่งหนึ่งแต่ไม่พบเชื้อ แต่เมื่อตรวจกับโรงพยาบาลแม่สาย ยืนยันผลว่าติดเชื้อโควิด-19
นพ.ทศเทพ อธิบายเพิ่มเติม เหตุที่ไปตรวจที่คลินิกไม่พบเชื้อ เพราะใช้วิธีการตรวจหาแอนติบอดี้หรือภูมิคุ้มกัน ซึ่งทางสาธารณสุขไม่แนะนำให้ใช้แล้ว เมื่อไปตรวจกับราชการใช้วิธีการแอนติเจนของเชื้อไวรัสโควิด-19 พบการติดเชื้อดังกล่าว
ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อชาว จ.สิงห์บุรี ดูจากไทม์ไลน์พบว่าหญิงวัย 51 ปีที่ติดเชื้อไม่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อใน จ.เชียงราย หรือผู้ติดเชื้ออื่น ๆ ในภาคเหนือ แม้จะเดินทางมาดูงานที่ อ.เวียงป่าเป้าและไปที่สิงห์ปาร์ค แต่ไปดูงานเท่านั้น ไม่ได้ไปเที่ยวงานที่ผู้ติดเชื้อไปเที่ยว เป็นช่วงคนละเวลากันคือเดินทางมาในวันที่ 26 พ.ย. แต่ผู้ติดเชื้อจะมาในวันที่ 29 พ.ย. มีเพียงช่วงเวลาขึ้นเครื่องที่นั่งสายการบินเดียวกับผู้ติดเชื้อหญิงวัย 21 ปี ที่กรุงเทพมหานคร นั่งห่างกันถึง 8 ที่นั่ง ระบบการป้องกันภายในเครื่องบินก็มีการป้องกันอย่างดี จึงไม่น่าจะติดต่อกันได้
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังระบุว่า จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ ผู้ติดเชื้อรายที่ 7 เป็นชาย อายุ 28 ปี ชาว จ.เชียงราย พบว่าได้ทำงานสถานบันเทิงที่ชื่อว่าร้าน 8080 ทางจังหวัดให้สั่งปิดสถานบันเทิงแห่งนี้ชั่วคราวก่อนจำนวน 14 วัน และขอความร่วมมือร้านอาหารอีก 3 แห่งประกอบด้วย ร้านตะวันแดงสาดแสงเดือนเชียงราย ร้าน THE LIBRARY CHIANGRAI และร้าน unseen chiangrai (อันซีน เชียงราย) พบว่าผู้ติดเชื้อไปท่องเที่ยวในคืนเดียวกันก่อนพบการติดเชื้อ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ได้มีการนำรั้วลวดหนามไปติดตั้งเพิ่มตามช่องทางธรรมชาติ ตลอดแนวชายแดนตั้งแต่อำเภอแม่สายไปจนถึงอำเภอเชียงแสน ของจังหวัดเชียงราย และเพิ่มมาตรการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบข้ามแดนและมีการลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 3 แต่ก็มีคนไทยอีกส่วนที่ทำการลักลอบข้ามแดน เพื่อหนีการแพร่กระจายของโรค ทางศูนย์ประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่นจึงได้มีการประสานงานกันเพื่อกดดันให้กลุ่มคนไทยดังกล่าวกลับเข้ามาตามช่องทางที่ถูกต้องและนำมาตรวจและกักกันโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย
ส่วนสถานการณ์ที่ เชียงใหม่ นพ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขเชียงใหม่ เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 46 ของเชียงใหม่ หญิงไทย อายุ 26 ปี ทำงานสถานบันเทิงในท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เดินทางเข้าประเทศทางพรมแดนธรรมชาติ และเข้ามาใน จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ผลยืนยันพบเชื้อ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์
ผลจากการสอบสวนโรคไม่พบผู้สัมผัสเพิ่มเติม ผู้ป่วยรายนี้เป็นกลุ่มเดียวกันกับผู้ป่วยโควิด-19 จ.เชียงใหม่ รายก่อนหน้านี้ มีประวัติการเดินทางและสัมผัสผู้อื่นในกลุ่มเดียวกัน หลังตรวจหาเชื้อครั้งแรกผลเป็นลบ แต่ก็ได้รับการกักกันตัวทันที ก่อนตรวจพบเชื้อโควิด
ส่วนที่จังหวัดพิจิตร นายแพทย์กมล กัญยาประสิทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่าจังหวัดพิจิตรมีผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงทั้งสองแห่งที่เดียวกับผู้ป่วยหญิงอายุ 25 ปีที่ติดเชื้อโควิด-19 ลักรอบเข้าเมืองมาจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยมีผู้มาลงทะเบียนเพื่อรับการตรวจคัดกรองทั้งสิ้น 580 คน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิจิตรได้ทำการตรวจไปแล้วจำนวน 346 คน ผลการตรวจเป็นลบ และอยู่ระหว่างรอฟังผลตรวจอีก 97 คน และทุกรายจะต้องมีการกักตัวให้ครบ 14 วัน ส่วนข้อกังวลเรื่องการระบาดในพื้นที่ ขอให้มั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากผู้ติดเชื้อไม่มีอาการป่วย ไอ หรือ จาม
ด้านนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาการแทนอธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า หลังจากที่พบว่ามีการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ได้มอบหมายให้กรมท่าอากาศยานยกระดับตรวจเข้ม การเดินทางมาใช้บริการของประชาชนในสนามบินภูมิภาคทั้ง 28 แห่งทั่วประเทศพร้อมกับทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สุขภาพ
- วิดีโอยอดนิยม
