เงินสะพัดปีใหม่ 64 ต่ำสุดในรอบ 15 ปี
วันนี้ 29 ธ.ค. 2563 ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณย่านการค้า ซอยวิภาวดี 16 พบว่าปกติแล้วหน้าร้านค้าต่างๆ จะติดป้ายวันหยุดและวันกลับมาเปิดร้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อแจ้งเป็นข้อมูลให้กับลูกค้า แต่ปรากฎว่าถึงวันนี้ (29 ธ.ค.63) แทบไม่พบร้านค้าไหนติดป้ายประกาศลักษณะนี้ไว้เลย
สอบถามกับทางพ่อค้าแม่ค้าย่านนนี้ระบุว่า ปีใหม่นี้คงไม่กลับบ้านที่ต่างจังหวัด และไม่มีแผนเดินทางไปเที่ยวที่ไหน สาเหตุสำคัญ เพราะไม่มีเงิน และกังวลกับสถานการณ์ ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะความไม่แน่ชัดว่า เมื่อเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วจะต้องกักตัวหรือไม่ จึงเลือกที่จะขายของอยู่กรุงเทพดีกว่า
พฤติกรรมนี้สอดคล้องกับข้อมูลของ ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่คาดการณ์ว่าปีใหม่นี้ จะเป็นปีที่คนจับจ่ายน้อยที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยจาการที่เคยมียอดจับจ่ายอยู่กว่า 1 แสนล้านบาท ปีนี้อาจจะเหลือแค่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าคนต่างจังหวัดจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพียงแค่ร้อยละ 40 เท่านั้น แม้ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ก็ตาม
อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชื่อว่า การที่รัฐบาลยังไม่ตัดสินใจล็อกดาวน์อาจจะอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดควบคู่ไปกับสภาพเศรษฐกิจ เพราะมีบทเรียนจากการล็อกดาวน์ครั้งที่แล้ว ที่ทำให้เศรษฐกิจบอบช้ำหนัก เสียหายเดือนละ 2-3 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้กิจการที่ผูกพันกับต่างประเทศ ทั้ง การท่องเที่ยวและการส่งออก ล้วนได้รับผลกระทบ ดังนั้นทางเดียวที่รัฐบาลทำได้คือต้องรักษากำลังซื้อภายในประเทศ
อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชื่อว่า หากหลังจากนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงขึ้น รัฐบาลอาจจะใช้หลักสุขภาพนำเศรษฐกิจ โดยมีมาตรการล็อกดาวน์ตามมา แต่หากควบคุมสถานการณ์ได้ดี โดยที่ไม่ต้องล็อกดาวน์ ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจหลังปีใหม่จะดีขึ้นเป็นลำดับ และอาจจะขยายตัวเป็นบวกอีกครั้งช่วงปลายไตรมาส2 ปี2564
