สธ.คาดสัปดาห์นี้ อย.ขึ้นทะเบียนวัคซีน 1 ตัว

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า วัคซีนโควิดที่จะนำมาฉีดให้คนไทยนั้น มีหลักสำคัญ 2 ประการ คือประสิทธิภาพ และความปลอดภัย โดยขณะนี้ มีบริษัทวัคซีน 1 แห่ง ที่อาจได้รับอนุญาตการให้ใช้วัคซีนในภาวะฉุกเฉิน  ภายในสัปดาห์นี้  หากขึ้นทะเบียนสำเร็จ ไทยจะได้รับวัคซีนมาใช้ในประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ตามแผน

โดยก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยจาก อย.ว่า บริษัทวัคซีนทั้ง 2 แห่ง คือซิโนแวค และแอสตราเซเนกา ได้ยื่นขอขึ้นทะเบียน อยู่ระหว่างรอเอกสารงานวิจัยเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่า บริษัทซิโนแวค อาจได้รับอนุญาตให้ใช้วัคซีนในภาวะฉุกเฉินก่อน 

นพ.โอภาส ระบุด้วยว่า เมื่อไทยเริ่มการฉีดวัคซีนแล้ว ในเรื่องของความปลอดภัย จะมีระบบการติดตามอาการหลังฉีดวัคซีนอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ซึ่งจะดูว่ามีอะไรที่ผิดปกติ ไม่ว่าจเป็นการแพ้ยา อาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ ซึ่งจะมีคณะกรรมการฯ มารวบรวมข้อมูล ผู้ใช้แต่ละคน ว่า อาการไม่พึงประสงค์นั้น เกิดจาก วัคซีน /ไม่เกิดจากวัคซีน หรือ อาจจะเกิดจากวัคซีนแต่ยังสรุปไม่ได้ ถ้าสงสัยว่าเป็นผลจากวัคซีน ก็จะมีการหยุดการฉีดวัคซีนไปก่อน จนกว่าจะหาสาเหตุได้

อย่างไรก็ตาม ในภาวะโรคระบาด วัคซีนเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็เป็นเพียงตัวเสริม มาตรการสำคัญที่สุดยังต้องเป็นการป้องกันดูแลตนเอง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และรักษาระยะห่าง

ทั้งนี้ตามแผนการฉีดวัคซีน ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ไทยจะฉีดวัคซีนจากบริษัทซิโนแวค 2 แสนโดส ปลายเดือนมีนาคม จะฉีด 8 แสนโดส ปลายเดือนเมษายน จะฉีด 1 ล้านโดส จากนั้นในเดือนพฤษภาคม ไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส