หมอประสิทธิ์ เผย อาการผู้ว่าฯสมุทรสาครดีขึ้น ยืนยันไม่พบเชื้อโควิด-19 แล้ว

โดย PPTV Online

เผยแพร่

นพ.ประสิทธิ์ เผยผู้ว่าฯสมุทรสาครอาการดีขึ้น แจงสาเหตุต้องเจาะคอดูดเสมหะมาตรวจเพื่อรักษาเนื้อปอดให้ฟื้นตัว ยืนยันผลตรวจโควิด-19 เป็นลบไม่พบเชื้อ

อาการล่าสุด 'ผู้ว่าฯสมุทรสาคร' ศิริราช เจาะคอ ช่วยหายใจ ชี้ปลูกถ่ายปอด เป็นวิธีสุดท้าย

หมอประสิทธิ์แจงผู้ว่าฯสมุทรสาครอาการดีขึ้น

วันนี้ 26 ม.ค. 2564 รายการเป็นเรื่องเป็นข่าว ได้พูดคุยกับนพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ถึงความคืบหน้าอาการของ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าอาการค่อนข้างน่าเป็นห่วงจนแพทย์ต้องใช้วิธีเจาะคอดูดเสมหะเพื่อให้ลมเข้าปอด

นพ.ประสิทธิ์ บอกว่า โควิด-19 ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบทางเดินหายใจ โดยหลักทั่วไปแล้วคนไข้ในลักษณะนี้ถ้ารักษาในระยะหนึ่งปอดทำงานได้ตามปกติ คนไข้ก็จะฟื้นตัวและร่างกายจะกลับมาตามปกติ แต่ท่านผู้ว่าฯยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่ 2-3 อย่างเนื่องจาก ท่านอายุเยอะ เมื่อปอดส่วนหนึ่งยังทำงานได้ไม่ดี ระหว่างที่ประคับประคองทางแพทย์ไม่สามารถถอดเครื่องหายใจออกได้ ก่อนหน้านี้เคยทดสอบมาแล้วในระดับหนึ่ง โดยการปรับท่าต่างๆ เพื่อให้ท่านหายใจได้เอง การที่ใส่เครื่องช่วยหายใจนานๆก็จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เมื่อติดเชื้อแล้วจะมีเสมหะเยอะ เพราะ ปกติแล้วการใช้ท่อหายใจเราจะใช้ทางปากซึ่งจะดูดเสมหะค่อนข้างลำบาก และอีกอย่างคนที่ใส่ท่อหายใจนานถึง 4 สัปดาห์เป็นข้อบ่งชี้อย่างหนึ่งที่จะต้องเจาะคอ เพื่อสามารถดูดเสมหะต่างๆออกมาได้ง่าย

“การที่เจาะคอแบบนี้คนทั่วไปจะคิดว่าคนไข้มีอาการหนักแต่จริงๆแล้วคนที่เจาะคอแล้วกลับบ้านไปตามปกตินี้มีจำนวนเยอะมาก ดังนั้นอาการของท่านผู้ว่าเราคาดว่าต้องใช้กระบวนการช่วยหายใจอีกระยะหนึ่งเราก็เลยดำเนินการเจาะคอเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วันอาทิตย์ก็ได้ทำการสืบค้นโดยการเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ทั้งปอด และ สมองเพื่อประเมินสถานการณ์ทั้งหมด ขณะเดียวกันอาการอับเสบในปอดที่ได้ให้ยาปฏิชีวนะก็ตอบสนองได้ดีทีเดียว และ อาการท่านก็ไม่มีไข้มาแล้ว 2-3 วันอาการดีขึ้น”

การเจาะคอแล้วนำมาตรวจพบว่าการอักเสบที่ปอดมีอาการค่อนข้างดีขึ้นมาก ดังนั้นตอนนี้ยังอยู่ในขั้นใช้เครื่องช่วยหายใจต่ออีกระยะหนึ่งเพื่อรอให้ปอดฟื้นตัว ขณะเดียวกันก็มีการให้ยาบางตัวเพื่อป้องกันการเป็นพังผืดในเนื้อปอด ซึ่งอยู่ระหว่างรอดูอาการ

สำหรับสถานการณ์ของคนไข้ถ้าบอกในภาพรวมค่อนข้างดีขึ้นเล็กน้อยเพียงแต่ยังไม่ออกข่าวเพราะยังถือว่ายังอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง และ ยังถือว่าเป็นคนไข้วิกฤตอยู่ แต่เมื่อวาน (25 ม.ค.)มีข่าวออกมาก็ทำให้ประชาชนสับสนกันเยอะ

“ผมก็เข้าใจในสังคมเพราะสังคมเป็นห่วงท่านมาก และ เราก็ให้ข้อมูลที่เป็นความจริงว่าเราเจาะคอไปเมื่อไหร่ เราออกข่าวอย่างสม่ำเสมอ แต่เดิมเราออกข่าวทุกวัน พอสถานการณ์ดีขึ้นจึงไม่จำเป็นต้องออกข่าวทุกวัน แต่จะแถลงในวันจันทร์ พุธ ศุกร์”

นพ.ประสิทธิ์ ยืนยันว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในโรงพยาบาลศิริราชแถลงความเป็นจริงอย่างแน่นอนไม่ใช่เก็บข้อมูลไว้นานแล้วค่อยบอก อย่างเมื่อวานตนเองรู้สึกไม่ดีเพราะว่ามีนักข่าวบางสำนักโทรไปหาภรรยาของท่าน แล้วถามว่าได้ข่าวว่าท่านผู้ว่าฯเสียชีวิต ภารยาท่านผู้ว่าฯก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ภรรยาท่านผู้ว่าอยู่ในระยะเวลาการเก็บตัวขอความกรุณาฟังข่าวจากตน โดยจะให้ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอและเปิดให้มีการสักถาม

เมื่อถามว่า ตอนนี้ต้องเฝ้าดูอาการเรื่องระบบทางเดินหายใจเพื่อให้ท่านผู้ว่าฯสามารถหายใจได้เอง นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เราตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 แล้ว และ เชื่อว่าเชื้อโควิด-19ไม่เหลือแล้วได้ทำมา 3 ครั้งแล้วผลลบทั้ง 3 ครั้ง แค่โควิด-19 มันไปทำลายเนื้อปอด ถ้าทำลายส่วนหนึ่งไม่มากมายไปกว่านี้ ก็เป็นหน้าที่ของแพทย์ที่จะพิสูจน์ว่าเนื้อปอดเพียงพอหรือไม่ ถ้าเพียงพอทุกอย่างก็จบ  การเสียหายบางอย่างของเนื้อปอดจากโควิด-19ไม่ได้ถาวร บางอย่างฟื้นตัวได้ จึงต้องรอให้ปอดค่อยๆฟื้นตัว

ส่วนจะต้องปลูกถ่ายปอดหรือไม่นั้น ในกรณีนี้คือปอดถูกทำลายเยอะจนกระทั่งไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งตอนนี้ท่านผู้ว่าฯไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้นยังอีกไกล มีวิธีการรักษาอีกตั้งเยอะ มีบางประเทศโควิดทำลายปอดเยอะจนกระทั่งเนื้อปอดไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่สามาถหายใจด้วยตัวเองได้เขาจึงจะพิจารณาเปลี่ยนปอด

อย่างไรก็ตามอวัยวะต่างๆในร่างกายท่านผู้ว่าฯระบบอื่นๆทำงานตามปกติหมดแล้วเหลือระบบนี้ระบบเดียวที่ทางแพทย์เฝ้าติดตามอยู่ ถ้าเนื้อปอดฟื้นตัวทำงานได้เพียงพอ กระบวนการต่อไปที่ได้วางแผนไว้ คือ ค่อยๆถอยเครื่องช่วยหายใจ ระหว่างที่ท่านผู้ว่าฯหายใจได้ด้วยตัวเองก็จะค่อยปรับ จนท่านสามารถหายใจได้เอง อันนี้เป็นตัวบอกที่ดีว่าปอดทำงานได้หรือไม่ได้

 

 

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ