นายเกา ฟู่ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคจีน ระบุ กำลังพิจารณาใช้วัคซีนโควิด-19 ตัวอื่น มาใช้แทนวัคซีนโควิด-19 ของจีน หลังพบว่าอาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าเมื่อ เทียบกับวัคซีนตัวอื่นๆ รวมถึง ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา
จีนทลายแก๊งผลิตวัคซีนโควิด-19 ปลอม
"ข้อมูลที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่าวัคซีนของจีนล้าหลังกว่าชนิดอื่น ๆ รวมถึง ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา ในแง่ของประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีข้อดีที่อุณหภูมิระหว่างการเก็บรักษา (วัคซีนของจีนเก็บได้ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ขณะที่ ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิ -25 ถึง -15 องศาเซลเซียส) และตอนนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาอย่างเป็นทางการว่า เราควรใช้วัคซีนตัวอื่นจากชุดการผลิตอื่นสำหรับกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันหรือไม่" นายเกา ฟู่ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคจีน ระบุ
อย่างไรก็ตาม การกล่าวถึงวัคซีนจีนของ นายเกา ฟู่ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคจีน ไม่ได้ยืนยันว่าคือวัคซีนตัวเดียวกับที่กระจายออกไปยังประเทศต่างๆ หรือไม่
แต่ก็เป็นที่ทราบกันว่า วัคซีนของจีนที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่ คือ ซิโนแวค และถูกส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ตามคำสั่งซื้อ (หนึ่งในนั้นคือ ประเทศไทย)
ซึ่งวัคซีนซิโนแวค พัฒนาขึ้นโดย บริษัทเอกชน และบริษัทซิโนฟาร์มของรัฐบาลจีน โดยแต่ละโดสจะต้องฉีดห่างกันไม่เกิน 3 สัปดาห์ ประสิทธิภาพอยู่ที่ 49.1% จากข้อมูลจากการทดลองระยะที่ 3 ในบราซิล ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ 50% ที่กำหนดโดยองค์การอนามัยโลก ตามรายงานที่เผยแพร่ โดยนักวิจัยชาวบราซิล
ขณะที่บางส่วนพบว่าว่าอัตราประสิทธิภาพของซิโนแวคเพิ่มขึ้นเป็น 62.3% แต่หากย้อนกลับไป เมื่อช่วง มีนาคม ปีนี้ซิโนฟาร์มของรัฐบาลจีน รายงานต่อองค์การอนามัยโลกว่า วัคซีนซิโนแวค มีประสิทธิภาพ 72.5% และ 79.4% ตามลำดับ
ก่อนที่ต่อมาจะมีรายงานประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคในแต่ละประเทศ แต่แตกต่างกันไป ดังที่เคยเขียนไว้ใน ปริศนาประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 “ซิโนแวค”
ปริศนาประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 “ซิโนแวค”
อย่างไรก็ตาม วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวค จากประเทศจีนนั้นทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนจากบริษัทซิโนแวคไปแล้ว ประมาณ 200 ล้านโดส (ข้อมูล ณ วันที่ 2 เมษายน 2564) เช่น ประเทศจีน สิงคโปร์ บราซิล ตุรกี อินโดนีเซีย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ บรูไน ไทย เป็นต้น
วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวค ประเทศจีน ยังติด 1 ใน 10 อันดับผู้ผลิตของประเทศในโลกที่ได้รับการจองวัคซีนโควิด-19 มากที่สุด โดยมีการจองที่ 367 ล้านโด๊ส(ข้อมูล ณ วันที่ 7 เมษายน 2564) อีกด้วย
นอกเหนือจากนั้น จีนยังได้พัฒนา วัคซีนโควิด-19 อีก 4 ชนิด ซึ่งได้การรับรองให้ใช้ และอีก 5 ชนิดสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินในวงจำกัด ทำให้คาดว่าจีนมีแนวโน้มที่จะผลิตวัคซีนโควิดออกมาได้ราว 3 พันล้านโดสในสิ้นปีนี้
ต่อมา เกา ฟู่ ออกมาระบุว่า หนึ่งในวิธีที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกควรพิจารณาคือ "การผสมวัคซีน"
สอดคล้องกับ ผู้เชี่ยวชาญหลายราย มองว่า การผสมวัคซีนอาจช่วยเพิ่มประสิทธิผลได้ โดยนักวิจัยในสหราชอาณาจักรกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการผสมวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/บิออนเทค กับวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า
เรียบเรียงจาก รอยเตอร์