โรงแรมแห่ผันตัวเข้าร่วม ASQ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เมื่อโรงแรมที่เสนอขอผันตัวเป็น ASQ หรือ Alternative State Quarantine หรือโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือก ที่ในปัจจุบันมีมากกว่า 137 แห่ง ต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ในภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ในขณะที่ยอดจองห้องพักช่วงสงกรานต์ลดลงกว่า 30%

สธ.เปิดตัวแพลตฟอร์มจอง ASQ ไทย-ต่างชาติเข้าประเทศง่ายขึ้น

อุบัติเหตุสะสม 3 วัน ตาย 110 ราย พบจักรยานยนต์มากสุด

ทีมข่าวพีพีทีวี ได้พูดคุยกับ นายปรินทร์ พัฒนธรรม  Executive Assistant Manager โรงแรมเมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ เปิดเผยว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส จึงเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ต้องปรับตัวไปเป็นโรงแรมในรูปแบบ Alternative State Quarantine หรือ สถานที่กักตัวทางเลือก เพื่อทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้

โดยคุณปรินทร์ เล่าว่า การเข้าร่วม ASQ หรือ Alternative State Quarantine ต้องปรับตัวหลายอย่าง ทั้งการให้โรงพยาบาลเข้ามาตรวจสอบการจัดเก็บขยะติดเชื้อ ระบบระบายอากาศในห้องพัก ,การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในโรงแรม ร่วมถึงการฝึกให้พนักงานทุกคนต้องเรียนรู้การใส่-ถอดชุด PPE อย่างปลอดภัย และการใช้ชีวิตในพื้นที่เสี่ยง

แม้หลายฝ่ายจะมองว่าการเอาโรงแรมระดับ 5 ดาว มาทำเป็นสถานที่กักตัว อาจทำให้เกิดความเสี่ยงหลายอย่างและไม่คุ้มค่า คุณปรินทร์ ยอมรับว่า รายได้และกำไรที่ได้มาจากการเป็น ASQ ไม่สามารถสร้างมูลค่าได้เท่าเดิม เมื่อเทียบกับก่อนเกิดโควิด-19 ประกอบกับมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยราคาห้องพัก ปี 2562 ห้องมาตรฐานสุพีเรีย เริ่มต้นที่ 4,500 บาทต่อคืน แต่เมื่อเข้าร่วมเป็น ASQ จะคิดแพคเกจห้องพัก ในรูปแบบ 7 วัน ราคา 41,000 บาท , 10 วัน ราคา 55,000 บาท และ 14 วัน ราคา 66,500 บาท รวมค่าบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและค่าตรวจโควิด-19 โดยปัจจุบันมียอดการเข้าพักของนักท่องเที่ยวที่ต้องกักตัว จำนวนกว่า 80%

ทั้งนี้นายปรินทร์ ในฐานะประธานชมรม ASQ Thailand เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงแรมทั่วประเทศที่เข้าร่วม ASQ มีทั้งหมด 137 แห่ง จำนวนห้อง 18,219 ห้อง มียอดเข้าพักเพื่อกักตัว 45-50% นอกจากนี้มีโรงแรม ASQ ที่ผันตัวไปเป็น Hospitel แล้ว 11 แห่ง จำนวนห้องที่สามารถรองรับผู้ป่วย ประมาณ 3,105 ห้อง

ในขณะที่นางศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพักในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างมาก โดยเฉพาะโรงแรมใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกยกเลิกไปแล้วกว่า 30% ที่ก่อนหน้านี้ช่วงปลายเดือนมีนาคม มีสถิติออกมาว่า ห้องพักเต็มเกือบทุกโรงแรม จำนวนยอดจองสูงถึง 50-70%

ทั้งนี้การออกกฎของแต่ละจังหวัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะภาคเหนือ ที่มีนโยยายเข้มงวด ให้ประชาชนที่จะเดินทางเข้ามา ต้องกักตัวเป็น 14 วัน ส่งผลให้ยอดยกเลิกการเข้าพัก จ.เชียงใหม่ ลดลงกว่า 40% แต่ภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดต่อเนื่อง และมียอดการยกเลิกห้องพักเพียง 10% เท่านั้น

นอกจากนี้นางศุภวรรณ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องจับตาให้การท่องเที่ยวในไทยกลับมาฟื้นตัวได้ คือการรอคอยความหวัง โครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 “ ที่จะเปิดให้ใช้สิทธิได้วันที่ 7 พฤษภาคมนี้ และความชัดเจนเรื่องวัคซีน อาจจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาดีขึ้นได้

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ