เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ศูนย์บริหารสถานการโควิด-19(ศบค.) โดยแพทย์หญิง พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศบค.แถลงว่า วันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,583 ราย กระจายใน 70 จังหวัด เดินทางจากต่างประเทศ 4 ราย เดินทางจากปากีสถาน อินเดีย ญี่ปุ่น และซูดานใต้ มีรายงานผู้เสียชีวิต อีก 15 คน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่การระบาดระลอกแรก สะสม 65,153 รายแล้ว สำหรับในการระบาดระลอกเมษายนในห้วง 30 วัน ระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน มีผู้ติดเชื้อสะสม 36,290 ราย เสียชีวิตสะสม 109 ราย
เริ่มเที่ยงคืนนี้ คุมเข้มโควิด 6 จังหวัดสีแดง
“เอ็ม” ลูก “หม่ำ” สุดกลั้น “น้าค่อม” จากไป ให้กำลังใจ “ไอซ์” กอดลาพ่อยังทำไม่ได้
ขณะที่ผู้ติดเสียชีวิต 15 ราย อยู่ในกทม.5 ราย และอีก 6 จังหวัด โดยอายุน้อยสุด 29ปี อายุมากสุด 93 ปี สาเหตุใกล้ชิดสมาชิกในครอบครัวที่ติดเชื้อ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยในครอบครัวเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักในการระบาดครั้งนี้
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.แถลงว่า สถานการณ์ที่น่ากังวลคือผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบ จำนวนมากขึ้น อาการรุนแรงขึ้น หนักขึ้น โดยวันนี้ มีรายงานผู้ป้วยอาการหนัก 871 ราย มี 250 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ซึ่งการมีผู้ป่วยอาการหนัก ปอดอักเสบจำนวนมาก ทำให้ต้องเร่งบริหารจัดการเตียงผู็ป่วยหนัก หรือเตียยงไอซียู
ด้าน นายแพทย์ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงว่าการมีผู้มีอาการปอดอักเสบจำนวนมาก ทำให้มีอัตราครองเตียง ICU สูงถึงร้อยละ 80 ในเขตกทม.และปริมณฑล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดหอผู้ป่วยหนักโควิดรวม (Cohort ICU) และปรับห้องแยกหรือหอผู้ป่วยสามัญเป็นหอผู้ป่วยเฉพาะโควิด (Cohort Ward) รวมทั้งเปิด Hospitel เพิ่มเพื่อเตรียมรองรับจำนวนผู้ป่วยที่รับการรักษาเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้บริหารจัดการให้ผู้ตรวจหาการติดเชื้อได้ทราบผลและได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว สำหรับสถานการณ์ในระลอกเมษายน ขณะนี้การติดเชื้อและผู้ป่วยใหม่ระดับประเทศรวมทั้งกทม.และปริมณฑลเริ่มชะลอตัว แต่ยังมีจำนวนสูงอยู่ เฉพาะ กทม.
“ขณะนี้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักหรือรุนแรงกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วใกล้เคียงศักยภาพระบบบริการการแพทย์ที่รองรับอยู่ จึงต้องเพิ่มความเข้มงวดทั้งมาตรการควบคุมโรคและมาตรการส่วนบุคคล เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ขอความร่วมมือประชาชน สวมหน้ากาก 100% เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่คนแออัด ระบบระบายอากาศปิด และลดการสัมผัสใกล้ชิด เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่” นพ.ทวีทรัพย์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุดดังนี้
อย่างไรก็ตามขณะนี้ 77 จังหวัดทั่วประเทศ มีมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกเคหสถาน 100 %