อย.อนุมัติวัคซีนโควิด-19 แล้ว 3 ราย “โมเดอร์นา”อยู่ระหว่างประเมินคำขอขึ้นทะเบียน
คุยกับครอบครัวชาวเยอรมัน ตรวจโควิด-19 เองทุก 14 วัน
วันนี้ 3 พฤษภาคม 2564 นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย กรณีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 579 เป็นชายชาวยูกันดา อายุ 32 ปี ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยมานาน และผู้ป่วย รายที่ 580 ซึ่งเป็นภรรยาสาวชาวไทย ได้ปกปิดข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ขณะเข้ามาติดต่อทำการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเสิงสาง เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เวลา 19.00 น.
โควิดหนัก 278 ยังโคม่า เจาะคลัสเตอร์คลองเตยพุ่ง ลามบ่อนไก่ เร่งตรวจ 4,000 หวั่นกระจาย 680 ชุมชน
ด่วน!! โควิดตายอีก 31 ราย ติดเชื้อ 2,041 สะสมทะลุ 7หมื่น หมอชี้ปิดสถานบันเทิง ทำติดในบ้านยอดพุ่ง
จากการตรวจสอบข้อมูลไทม์ไลน์ ของผู้ป่วยรายที่ 579 ชาวยูกันดารายนี้ จะเห็นว่า ได้ปกปิดข้อมูลโดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ รพ.เสิงสาง ในตอนแรกว่า ไม่ได้เป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยง จนเมื่อถูกสอบอย่างละเอียดจึงยอมรับว่า ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จริง โดยรายละเอียดในไทม์ไลน์ระบุว่า
-วันที่ 16-23 เมษายน 2564 ชายคนดังกล่าวและภรรยา อาศัยอยู่ที่บ้านในเขตบึงกุ่ม กทม. ทำงานที่ร้าน ไม่ได้เดินทางไปหน ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงานที่อื่น
-วันที่ 24 เมษายน 2564 ชายชาวยูกันดาเดินทางไปบ้านพี่ชาย ที่ย่านรามอินทรา กทม. และร่วมกินข้าวกับพี่ชายและครอบครัวพี่ชาย 3 คน (ซึ่งตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทั้ง 3 คน)
-วันที่ 25-26 เมษายน 2564 ไม่ได้เดินทางไปไหน ภรรยาของชายชาวยูกันดารายนี้ เริ่มมีอาการไอ จึงกินยาพักผ่อน
-วันที่ 27 เมษายน 2564 ภรรยามีอาการไอมากขึ้น และทราบข่าวว่า ครอบครัวพี่ชายทั้ง 3 คน ติดเชื้อโควิด19และเข้ารักษาที่ รพ.ฉะเชิงเทรา
-วันที่ 28 เมษายน 2564 ภรรยามีอาการไอ และเหนื่อย
-วันที่ 29 เมษายน 2564 ทั้งคู่เดินทางกลับ จ.นครราชสีมา เพื่อไปตรวจหาเชื้อโควิด19 ขณะที่ภรรยามีอาการป่วยมากขึ้น ซึ่งในเวลา 19.00 น. ได้เดินทางไปถึง รพ.เสิงสาง ส่วนภรรยาชาวไทยมีอาการไอ เหนื่อย แน่นหน้าอก ระคายคอมาก รพ.เสิงสาง จึงรับแอดมิท และตรวจหาเชื้อโควิด 19 เนื่องจากมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19
-วันที่ 30 เมษายน 2564 รพ.เสิงสาง แจ้งผลการตรวจ พบติดเชื้อโควิด- 19
-วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ภรรยามีอาการปอดอักเสบ รพ.เสิงสางจึงส่งต่อไปรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ทั้งนี้ ไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและไม่มีสถานที่เสี่ยงในพื้นที่ จ.นคราชสีมา
จากการสอบสวนข้อมูลเชิงลึก ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย แจ้งเหตุผลที่มีความต้องการจะตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เนื่องจาก ภรรยาเป็นชาว อ.เสิงสาง จึงตัดสินใจกลับมารักษาตัวที่บ้านภรรยา โดยขับรถยนต์มาจากกรุงเทพฯ ตรงไปยัง รพ.เสิงสางทันทีเพื่อตรวจหาเชื้อ ไม่ได้แวะเข้าหมู่บ้านหรือแวะสถานที่ต่างๆ ข้างทางเลย แต่ในขณะที่มาติดต่อเพื่อรับการตรวจรักษา กลับไม่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ฯ ว่า เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด19 แจ้งเพียงว่า มีอาการเหนื่อยหอบ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามและใช้ไหวพริบในการสังเกต และด้วยมาตรการป้องกัน กับตรวจสอบโรคของโรงพยาบาลเสิงสางที่เป็นไปอย่างรัดกุม จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับความเสี่ยงสูง จะมีเพียงเจ้าหน้าที่ฯ 2 คนในจุดคัดกรองที่พูดคุยกับผู้ป่วยจุดแรก เท่านั้น ที่ รพ.เสิงสาง ได้สั่งให้กักตัว โดยให้ work from home ดูอาการไปก่อน
กรณีนี้ จึงถือได้ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั้ง 2 รายนี้ จงใจปกปิดข้อมูล หรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อมูลความจริงซึ่งควรบอกแจ้งให้เจ้าพนักงานควบคุมโรค จนเป็นเหตุให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องกักตัว 2 รายดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยของ รพ.เสิงสาง ทางอำเภอและ รพ.เสิงสาง จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ป่วยทั้ง 2 ราย อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 โดยตำรวจ จะดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองคน หลังจากรักษาตัวจนหายดีแล้ว