นายแพทย์ บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลแคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าวพีพีทีวี ถึงแนวทางการจัดสรรวัคซีน หลังที่รัฐเปิดทางให้เอกชน สั่งซื้อวัคซีนได้เอง โดยผ่านตัวแทนของรัฐ
นายแพทย์ บุญ ระบุว่า หลังจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ขึ้นทะเบียนวัคซีนจากโมเดอร์นา ซึ่งคาดว่าจะขึ้นทะเบียนภายในอาทิตย์หน้า หลังจากนั้น เอกชนซึ่งเบื้องต้น ได้โควตา 5 ล้านโดส จะไปติดต่อของจองวัคซีนโมเดอร์นา จากบริษัท ซิลลิคฟาร์มา จำกัด
เปิดแผนเอกชน นำเข้า “วัคซีนทางเลือก” คาด "โมเนอร์นา" ผ่าน อย. เดือนนี้
อังกฤษ-อินเดีย เจรจาซื้อวัคซีนโควิด-19 จาก"โมเดอร์นา"
ซึ่งจะต้องรอประมาณ 4 เดือน หลังจากนั้น รัฐบาลโดยองค์การเภสัชกรรมจะเป็นผู้ไปจัดซื้อ แล้วนำมากระจายต่อให้โรงพยาบาลเอกชนต่างๆ
ทั้งนี้ การรอ 4 เดือน นับว่าค่อนข้างช้าเกินไป ขณะนี้ทางภาคเอกชน จึงกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท เพื่อขอนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาแบบทยอยนำเข้ามาก่อน โดย ล็อตแรก อยากขอนำเข้า 5 แสนโดสในเดือนหน้า ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ยืนยันว่าการมีวัคซีนทางเลือกเป็นเรื่องที่ดี หากดูจากต่างประเทศ 1 ประเทศ จะมีวัคซีนโควิด 19 อย่างน้อย 4-5 ชนิด เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกฉีดวัคซีนชนิดใด หรือถ้าวัคซีนตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหา ก็จะได้ใช้วัคซีนตัวอื่นทดแทนได้ทันที
นายแพทย์ บุญ เผยต่อว่า รัฐบาลให้เอกชน นำเข้าวัคซีนทางเลือกได้ แต่ ต้องไม่ซ้ำกับที่รัฐบาลจะนำเข้า ซึ่งรัฐบาลจะนำเข้า 5 ตัว ได้แก่ ซิโนแวค แอสตราเซเนกา สปุตนิก ไฟเซอร์ และซิโนฟาร์ม
ดังนั้น วัคซีนทางเลือกที่เอกชนจะนำเข้าเบื้องต้น คือ โมเดอร์นา ซึ่งคืบหน้ามากที่สุด จากนั้น ตัวต่อไปที่มองไว้ว่าจะนำเข้าคือ ไบโอเอ็นเทค แต่ต้องถามรัฐบาลก่อนว่า บริษัทเป็นบริษัทเดียวกับไฟเซอร์ กรณีนี้ เอกชนจะสามารถนำเข้าได้หรือไม่ ทั้งนี้ถ้านำเข้าได้ ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะทั้งไบโอเอ็นเทค กับ ไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพของวัคซีนที่ดี พอๆกันและตัวที่มองไว้อีกตัวหนึ่งคือ โนวาแวค ของสหรัฐอเมริกา
โดยไทม์ไลน์เบื้องต้น วัคซีนโควิดเข้าไทย มีที่เข้ามาแล้ว 2 ตัว คือ ซิโนแวค และแอสตราเซเนกา ซึ่งพรุ่งนี้ ซิโนแวคจะเข้ามาอีก 1 ล้านโดส และปลายเดือนนี้จะเข้ามาเพิ่มอีก 1.5 ล้านโดส ส่วนแอสตราเซเนกา ตามแผนจะเริ่มส่งมอบวัคซีนเดือนมิถุนายน ส่วนไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน คาดว่าจะนำเข้าได้ในเดือนธันวาคม
ส่วน สปุตนิก วี ขึ้นอยู่กับ รัฐบาลรัสเซีย ซิโนฟาร์ม ทางบริษัทปฏิเสธว่า ยังไม่สามารถส่งให้ไทยได้ในปีนี้ และโมเดอร์นา อยู่ระหว่างเจรจาว่าจะขอมาล็อตแรกเดือนหน้าก่อนได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ก็จะนำเข้าได้ในเดือนสิงหาคม
สำหรับประเด็นเรื่องยารักษาโควิด19 ซึ่งมีข่าวว่า สหรัฐอเมริกากำลังทดลองใกล้เสร็จ นายแพทย์บุญ ระบุว่า ตอนนี้ยาที่ได้รับการรับรองจาก 20 กว่าประเทศ ว่ารักษาไวรัสโควิดได้ ดี คือ ฟาวิพิราเวียร์ ซึ่ง เนื่องด้วยเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษที่ระบาดอยู่ในเวลานี้ เป็นเชื้อที่ลงปอดเร็ว มีความรุนแรง ทางโรงพยาบาลเอกชน จะให้ยาตัวนี้เร็วที่สุด คือตั้งแต่คนที่อยู่ในระดับสีเขียว เนื่องจากจะป้องกันได้ดีที่สุด และหากได้ยาครบโดสแล้ว ใน 4 วัน เชื้อโควิดจะหายไป
ซึ่งเห็นด้วยกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มีแนวคิดจะปรับมาให้ยาฟาวิพิราเวียร์ กับคนกรุงเทพให้เร็วขึ้น แต่เนื่องจาก ยาฟาวิพิราเวียร์ของกรุงเทพยังมีจำนวนน้อยอยู่ อาจไม่เพียงพอถ้าให้ทุกคน จึงเห็นว่า ควรให้สำหรับคนที่กำลังจะปรับจากสีเขียว เป็นเหลือง ก่อนก็ได้เช่นกัน
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ย้ำเรื่องการจัดหาวัคซีน ว่า แผนการจัดหาวัคซีนตอนนี้ ไทยมีตัวเลขวัคซีนรวม 63 ล้านโดส แบ่งเป็น แอสตราเซเนกา ที่ผลิตในประเทศไทย 61 ล้านโดส จะเริ่มส่งมอบได้แน่นอนในเดือนมิถุนายนนี้ วัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติมตามแผนอีก 3.5 ล้านโดส
พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการเสนอแผนจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม คือวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 5-20 ล้านโดส วัคซีนสปุตนิกวี วัคซีนจอหน์สันแอนด์จอห์นสันและวัคซีนชิโนแวค บริษัทละ 5-10 ล้านโดส รวมทั้งวัคซีนอื่นๆ ที่จะมีการขึ้นทะเบียนในอนาคต โดย รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้เดือนละ15 ล้านโดส และ ภายในสิ้นปีนี้ ประชากรในประเทศไทยต้องได้รับวัคซีน 50 ล้านคน