โควิดสายพันธุ์อินเดีย กระจายกทม.สุ่มเจอ 62 คน "สายพันธฺุ์แอฟริกา" เจอ 11 คุมอยู่ ที่ตากใบ

โดย PPTV Online

เผยแพร่

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผย สุ่มตรวจในกทม. โควิดสายพันธุ์อินเดียกระจายนอกแคมป์ เจอแล้ว 62 คน มั่นใจคุม "สายพันธุ์แอฟริกา" เจอ 11 คน ไม่กระจาย

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยถึงเชื้อโควิด -9 กลายพันธุ์ ว่า ตามธรรมชาติของเชื้อไวรัสโควิด 19 มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา หากมีการแพร่เชื้อมากขึ้น โอกาสเกิดการกลายพันธุ์ได้มากขึ้น ซึ่งการเฝ้าระวังมี 2 ระดับ คือ 1.ระดับที่น่าสนใจ (Variant of Interest) ที่ต้องติดตามกันต่อ และ 2.ระดับที่น่าห่วงกังวล (Variant of Concern) เช่น สายพันธุ์อังกฤษ อินเดีย บราซิล แอฟริกาใต้ แคลิฟอร์เนีย

อนุทิน มั่นใจ แอสตราฯส่งมอบทันฉีด 7 มิ.ย

แฟลตห้วยขวางแออัด กังวลโควิดระบาดซ้ำ

 

 

 

 

นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุด้วยว่า ประเทศไทยมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการในการสุ่มตรวจเพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อเกิดคลัสเตอร์ใหม่ พื้นที่ชายแดน ในกลุ่มผู้ป่วยอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจหรือเสียชีวิต และ
ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ

"ขณะนี้ในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์อังกฤษ จากการสุ่มตรวจเชื้อ 1,300 กว่าตัวอย่าง พบสายพันธุ์อังกฤษ 1,200 กว่าตัวอย่างหรือ 93% มาแทนที่สายพันธุ์เดิมก่อนหน้าแล้วเพราะแพร่กระจายเร็ว ส่วนความรุนแรงไม่แตกต่างจากสายพันธุ์เดิม และภูมิคุ้มกันจากวัคซีนยังได้ผล"

 “การตรวจด้วยวิธี RT-PCR จะทราบแค่ว่าติดเชื้อหรือไม่ แต่จะไม่ทราบสายพันธุ์ ต้องใช้วิธีการตรวจพิเศษ ใน 3 วิธี คือ การตรวจ RT PCRโดยการใช้น้ำยาเฉพาะต่อสายพันธุ์นั้น, การตรวจมุ่งเป้าเฉพาะส่วนของเชื้อไวรัส (Targeted sequencing) ใช้เวลา 1-2 วัน และการตรวจไวรัสทั้งตัว (Whole genome sequencing) ใช้เวลา 3-5 วัน มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ช่วยให้ทราบสายตระกูลของเชื้อว่ามีต้นทางมาจากที่ไหน เนื่องจากนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูล การตรวจสายพันธุ์ของแต่ละประเทศที่ส่งมาเป็นข้อมูลส่วนกลางได้ เช่น การระบาดที่สมุทรสาครพบว่าเชื้อมาจากอินเดีย บังกลาเทศ และเข้ามาทางเมียนมา เป็นต้น ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาให้ตรวจวิธีดังกล่าวได้มากกว่า 380 ตัวอย่างต่อสัปดาห์สูงกว่ามาตรฐานระดับโลก”

อธิบดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สำหรับการตรวจพบสายพันธุ์อินเดียในแคมป์คนงานก่อสร้างเขตหลักสี่ที่พบ 36 ราย เมื่อขยายการตรวจออกไปในพื้นที่อื่นของ กทม. ขณะนี้พบ 62 ราย สายพันธุ์นี้แพร่กระจายเร็วเช่นเดียวกับสายพันธุ์อังกฤษ ความรุนแรงไม่แตกต่างกันมาก วัคซีนยังใช้ได้

"ที่บอกว่าสายพันธุ์อินเดียจะหลบเข้าไปในปอด ตรวจหาเชื้อทางจมูกไม่เจอไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด" นพ.ศุภกิจ ย้ำ

ส่วนสายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่ตรวจพบ 11 ราย ยังอยู่ใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ไม่มีการแพร่ออกไปพื้นที่อื่น แต่ต้องมีการเก็บตัวอย่างเชื้อพื้นที่ใกล้เคียงมาตรวจเพิ่มเติม เช่น ยะลา สงขลา พัทลุง เป็นต้น ดังนั้น ขอให้ทุกคนลดการเคลื่อนย้าย ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปพื้นที่อื่น ส่วนความรุนแรงของสายพันธุ์แอฟริกาใต้ เนื่องจากประเทศไทยยังมีข้อมูลน้อยที่จะบอกความรุนแรง ส่วนต่างประเทศมีข้อมูลว่าอาจมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จึงต้องเฝ้าระวังต่อไป แต่เรารักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่และหายแล้ว 3 ราย

 “แม้สายพันธุ์อังกฤษ อินเดีย และแอฟริกาใต้ จะแพร่เร็ว แต่การป้องกันโรคโควิด 19 ไม่ได้ยึดว่าเป็นสายพันธุ์อะไร ใช้หลักการป้องกันควบคุมโรคเหมือนกัน ทั้งใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ลดกิจกรรมเสี่ยงปาร์ตี้ สังสรรค์  ลดการลักลอบข้ามแดนที่จะนำเชื้อกลายพันธุ์เข้ามา ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการกลายพันธุ์ในประเทศ"

"ส่วนประสิทธิภาพของวัคซีนต่อสายพันธุ์แอฟริกาใต้แม้จะลดลงทุกตัว ขออย่ากังวลจนไม่ไปฉีดวัคซีน เพราะสายพันธุ์นี้ยังอยู่ใน อ.ตากใบ และยังไม่ได้มาแทนที่สายพันธุ์อื่น วัคซีนยังมีผลต่อสายพันธุ์อื่นๆ ที่พบในประเทศเป็นส่วนใหญ่ จึงขอให้ทุกคนฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดอัตราป่วยและเสียชีวิต” นพ.ศุภกิจกล่าว
 

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ