เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในวันนี้ พบว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7,058 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 6,990 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 68 ราย หายป่วยกลับบ้าน 4,978 ราย ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 279,367 ราย สะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 308,230 ราย ขณะที่มีเสียชีวิต 75 ราย เสียชีวิตสะสม 2,462 ราย
กทม.วิกฤต ผู้เสียชีวิตคาบ้าน เพิ่มจำนวนมากขึ้น
แพทย์นิติเวช เผย โควิดกทม.หนัก ชันสูตรศพพบติดเพียบ
อย่างไรก็ตาม ศบค.รายงานการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการพบเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา หรืออินเดีย ที่กลายมาเป็นสายพันธุ์หลักในกทม.และกระจายทั่วประเทศ แพร่ระบาดรวดเร็วขึ้น อาจทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละ 10,000 รายในสัปดาห์หน้า
ขณะที่จับตามาตรการล็อกดาวน์ คุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากวานนี้ (7 ก.ค.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิิการสมช. ในฐานะผอ.ศูนย์ปฏิบัติการศบค. กล่าวถึงข้อเสนอล็อกดาวน์ประเทศว่า ได้ยินมาอย่างไม่เป็นทางการ และต้องรอกระทรวงสาธารณสุขประเมินและเสนอเข้ามาก่อน ซึ่งสถานการณ์และตัวเลขผู้ติดเชื้อในขณะนี้ยังถือว่าทรงตัว ส่วนจะออกมาตรการในรูปแบบไหนนั้น จะพิจารณาในวันที่ 12 ก.ค.นี้ ซึ่งจะล็อกเฉพาะพื้นที่แพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาหรือทั้งประเทศ
พล.อ. ระบุว่าอาจจะเน้นเฉพาะพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่พื้นที่อื่นก็ต้องมีมาตรการที่สูงเช่นกัน ซึ่งอาจจะมีทั้งการล็อกดาวน์และเซมิล็อกดาวน์ ลดหลั่นตามลำดับ
พล.อ.ณัฐพล ยังชี้แจงว่า ไม่ได้หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า "ล็อกดาวน์" แต่คำว่า "ล็อก" คือไม่ให้ไปไหน ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังอนุญาตให้เคลื่อนย้ายได้ แต่เมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องใช้ ก็จะห้ามเรื่องการเคลื่อนย้ายบางช่วงเวลา หรือบางพื้นที่ แต่จะต้องมีความชัดเจนในสถานการณ์ เช่นเดียวกันที่เคยทำตอนเมษายน 2563 และจะต้องมีมาตรการเยียวยารองรับ โดยข้อมูลกระทรวงการคลัง พบว่า การล็อกดาวน์เมษายน 63 งบฯเยียวยาเดือนละ 3 แสนล้านบาท และยังพบปัญหาไม่ทั่วถึง
