Nomophobia มาจากคำว่า No-Mobile-Phone-Phobia หลายคนอาจจะพอทราบว่า Phobia คือโรคกลัว พอรวมกับคำที่เหลือจะแปลได้ว่า “โรคกลัวไม่มีโทรศัพท์มือถือ”
อาการของโรคนี้ คือ
- ต้องมีมือถือใกล้ตัวตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นนอนจนหัวถึงหมอน
- ใช้เวลากับมือถือเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ รวมไปถึงเวลาเข้าห้องน้ำก็ต้องเอาไปด้วย หรือบางทีต้องเอาไปวางไว้ใกล้ตัวตอนอาบน้ำ
- หากไม่มีมือถือ จะรู้สึกไร้ที่พึ่ง เหมือนชีวิตขาดอะไรไป
- เช็กมือถือตลอดเวลา เพื่อเช็กว่าพลาดการแจ้งเตือนอะไรไปหรือเปล่า
สาธารณสุข เตือนคนติดสมาร์ทโฟน ระวังเป็น “โรคโนโมโฟเบีย”
10 โรคโฟเบีย ความกลัวแปลกๆ ที่บังเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
ฟังดูก็เป็นเรื่องปกตินี่ ก็แค่เล่นมือถือมากเกินไป... แต่อันที่จริงแล้ว โรค Nomophobia หรือโรคขาดมือถือไม่ได้ ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เหมือนกัน ทั้งสุขภาพจิต และสุขภาพกาย
ความผิดปกติทางอารมณ์และจิตใจ คือ พอมือถือห่างตัวก็จะรู้สึกวิตก กังวล ตื่นตกใจ ไปจนถึงกลัวเลยก็มี ในบางรายเมื่อรู้ว่าช่วงเวลานี้จะไม่สามารถใช้มือถือได้ อาจจะรู้สึกไม่มั่นใจ หรือขาดที่พึ่งทางใจไปเลย
ส่วนความผิดปกติทางกาย ที่ชัดเจนเลยคือ ปัญหานอนไม่หลับ นอนยาก พักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากการใช้งานโทรศัพท์มือถือมากเกินไป ที่สำคัญมือถือยังมีแสง Blue Light หรือแสงสีฟ้า ซึ่งเป็นแสงที่ทำให้มนุษย์ตื่น ลองคิดเล่นๆว่าถ้าเรานอนเล่นมือถือบนเตียง มือถือจ่อตาจะหลับง่ายได้อย่างไร เว้นแต่เราจะเพลียหรือน็อกจริง ๆ จนหลับคาจอ ซึ่งการเล่นมือถือก่อนนอนก็ต้องระวังปัญหาเรื่องสายตาอีกด้วย
อีกพฤติกรรมหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เป็นคือ การเล่นมือถือในขณะขับถ่าย ระหว่างที่เรานั่งชักโครกก็เล่นมือถือไปด้วย เมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็จะทำให้การขับถ่ายนั้นยิ่งนานขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ก็จะส่งผลให้มีเลือดคั่งที่ทวารหนัก บวกกับการเบ่งอุจจาระถี่ขึ้นและนานขึ้นกว่าเดิม ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก
คนที่เป็นโรคติดมือถือและมีอาการหนักก็จะเหมือนคนเป็นโรค Phobia อื่น ๆ บางรายขาดมือถือก็อาจมีอาการตัวสั่น เหงื่อออก หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ
ซึ่งความผิดปกตินี้บางรายอาจไปถึงขั้น PVS หรือ Phantom Vibration Syndrome แปลเป็นไทยง่าย ๆ คืออาการคิดไปเองว่ามือถือของเราสั่น เลยต้องหยิบมาดู ซึ่งสาเหตุก็เพราะวิตกกังวล กลัวว่าจะพลาดแจ้งเตือนอะไรไป ก็เลยระแวงตามสัญชาตญานมนุษย์อัตโนมัติ
อาการนี้อาจจะไม่ร้ายแรง แต่ก็รบกวนใจให้เสียสมาธิพอสมควร โดยเฉพาะในเวลาทำงาน หากสามารถที่ละสายตาหรือพักจากการใช้โซเชียลมีเดียได้ ก็จะส่งผลดีกับสุขภาพจิตรวมไปถึงสุขภาพกายอีกด้วย
รู้จักวิธีใช้ "พลาสเตอร์" ให้ดีกว่าเดิม เป็นแผลควรปิดอย่างไร