เรื่องราวดังกล่าว เกิดขึ้นจากมีหนังสืออ้างว่าเป็นตำรวจชั้นผู้น้อยของสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง จังหวัดพัทลุง ร้องเรียนไปยังสื่อมวลชนในพื้นที่ว่า ทางตำรวจได้รับจัดสรรเงินเบี้ยเลี้ยงโควิด จำนวนประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาท และเจ้าหน้าที่การเงินอยู่ระหว่างจัดสรรให้ผู้ปฏิบัติงาน
จากนั้นทางผู้บังคับบัญชาเรียกประชุมตำรวจทุกนาย และแจ้งว่าเงินค่าเสี่ยงภัยโควิด-19 จะถูกโอนเข้าบัญชีผู้ปฏิบัติงาน พอเงินโอนแล้ว ขอให้ถอนเงินสดมาส่งคืนให้เจ้าหน้าที่การเงิน เพื่อจะจัดสรรใหม่
'ผบ.ตร.'สั่งสอบทางลับ อมเบี้ยเลี้ยงโควิดลูกน้อง จี้ 3 บช.ตรวจสอบด่วน สร้างแฮชแท็กเปิดช่องชี้เป้า
พิษเบี้ยเลี้ยงโควิด ป.ป.ช.เชือด ม.157 -172 "อดีต ผกก.ทุ่งสง" บรรยายพฤติการณ์เล่นแร่แปรเงินลูกน้อง
พร้อมกำชับว่าห้ามโอนคืนเด็ดขาด แต่ให้นำเงินสดมาคืนเท่านั้น เพราะกลัวว่าสลิปการโอนจะเป็นหลักฐานร้องเรียน
ซึ่งคนที่ส่งหนังสือร้องเรียนฉบับนี้ ก็มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นเงินที่ได้จากการทำงาน ทำไมต้องส่งคืนเพื่อจัดสรรใหม่
ล่าสุด พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้ออกหนังสือชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า ทางจังหวัดได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายบรรเทา แก้ปัญหา และเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยมีนโยบายให้ทุกโรงพักเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน หรือ ค่าใช้จ่ายตามสิทธิให้ตำรวจในสังกัดก่อนเป็นอันดับแรก และย้ำว่าการเบิกจ่ายจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับที่หน่วยอื่นส่งมาให้ โดยจะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีของตำรวจแต่ละนาย ผ่านระบบ E-Payment
ส่วนกระแสข่าวว่าตำรวจออกมาร้องเรียนว่าถูกสั่งให้ส่งเงินคืน ขณะนี้ได้ให้ตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ภายใน 7 วัน หากพบว่าทำผิดตามที่ร้องเรียนจริงจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด
ขณะที่ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากตรวจสอบแล้วมีมูล ให้รีบลงโทษ เพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ กับการกระทำดังกล่าว พร้อมย้ำว่าตำรวจชั้นประทวนที่ทำงานจริง ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าผิดจะดำเนินการอย่างจริงจัง และยังกำชับให้ทุก สภ.ดำเนินการเรื่องค่าตอบแทนให้ถูกต้องตามระเบียบ
อมเบี้ยเลี้ยงโควิด พ่นพิษ เด้ง ผกก. - สารวัตร สภ.ทุ่งสง เข้ากรุ เพื่อตรวจสอบ